ศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพที่ได้ฤกษ์เปิดฉากระเบิดเพลงแข้งเพื่อชิงความเป็นจ้าวลูกหนังแห่งกาฬทวีปในวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2022 โดยคู่เปิดสนามจะเป็นการโคจรมาพบกันระหว่างเจ้าภาพอย่างแคเมอรูนปะทะกับบูร์กีนา ฟาโซ่ ในเวลา 23.00 น. ตามเวลาในบ้านเรา โดยทัวร์นาเมนต์นี้เพิ่งมีกฎเหล็กออกมาว่าหากทีมใดไม่ลงแข่งจะโดนปรับแพ้ทันที โดยไม่สนอกสนใจสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสมรณะโควิด-19 แต่อย่างใดเลย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเจ้าไวรัสวายร้ายโควิด-19 ที่ทวีปแอฟริกากำลังเผชิญหน้าอยู่ในชั่วโมงนี้ มันจัดได้ว่าหนักหนาสาหัสอย่างมากเลยทีเดียว โดยทีมแชมป์เก่า 7 สมัยอย่างอียิปต์โดนเล่นงานไปแบบจุก ๆ จนทำให้จำเป็นต้องยกเลิกการซ้อม และกว่าจะบินมาถึงประเทศเจ้าภาพอย่างแคเมอรูนก็ล่าช้าไปกว่ากำหนดการเดิม
นอกจากนี้ทีมที่ประสบปัญหายิ่งใหญ่ไม่แพ้กันนั่นก็คือกาบอง หลังจากที่พวกเขาต้องไร้เงาซุปตาร์ประจำทีมอย่างปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง จากการที่ดาวซัลโวของอาร์เซน่อลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เป็นบวกเพิ่มไปอีกราย
ขณะเดียวกันนั้นทีมหน้าใหม่ที่เพิ่งได้เข้าร่วมศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่างเคปเวิร์ด และกินี ต่างก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ไม่น้อยเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีสหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน (ซีเอเอฟ) ไม่ได้เห็นอกเห็นใจแถมไร้ความปราณีสิ้นดี โดยออกมาประกาศกฎเหล็กว่าหากทีมใดไม่ลงทำการแข่งขันจะโดนปรับแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-2 ทันที โดยเป็นหน้าที่ของแต่ละชาติที่จะไปแก้ปัญหากันเอาเอง ขอให้ส่งนักเตะลงสนามได้ครบ 11 คนไม่ให้ต้องเลื่อนออกไปเป็นใช้ได้แล้ว
สำหรับการรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพของแคเมอรูนในครั้งนี้ ทำให้พวกเขาได้อยู่ในกลุ่มเอร่วมกับทีมน้องใหม่อย่างเคปเวิร์ด รวมไปถึงทีมไม้ประดับของกลุ่มอย่างเอธิโอเปีย จะมีที่หินสุดก็คงเป็นเพียงแค่บูร์กินา ฟาโซ่ทีมเดียวเท่านั้นเอง ทำให้เส้นทางการผ่านรอบแบ่งกลุ่มนั้นมันช่างดูสดใสเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ
ๆ การแข่งขันในปีนี้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ๆ ละ 4 ทีม โดยแชมป์และรองแชมป์กลุ่มจะได้ตบเท้าเข้ารอบน็อกเอ้าต์ไปแบบอัตโนมัติ ส่วนทีมที่ได้อันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมจากทุกกลุ่มจะได้ผ่านเข้าไปรวมกันเป็นรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป หลังจากนั้นก็จะทำการแข่งขันกันในแบบน็อกเอ้าต์ไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ
