ข่าวฟุตบอล

เปารับผิดดราม่าฝอยทองโดนปล้นชัยทดเจ็บ

                แฟร์นานโด ซานโตส ผู้จัดการทีมชาติโปรตุเกส ออกมาเปิดเผยว่าได้รับ คำขอโทษจากผู้ตัดสิน หลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนยุโรปกลุ่มเอที่โปรตุเกสพลาดโอกาสบุกไปเก็บชัยเหนือเซอร์เบียและจบลงด้วยการแบ่งแต้ม 2-2 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 พร้อมเหตุการณ์สุดดราม่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ส่งบอลข้ามเส้นเข้าไปตุงตาข่ายแล้ว แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้เป็นประตู  ขณะเดียวกันก็ออกมาลั่นว่าเกมระดับนี้ต้องมี “วีเออาร์”

                เกมดังกล่าวโปรตุเกสน่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้แบบชิล ๆ หลังจากที่ดาวยิงของลิเวอร์พูลอย่างดีโอโก้ โชต้าเหมาคนเดียวสองประตูให้นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 11 และ 36 ตามลำดับ  ก่อนที่เซอร์เบียจะกลับคืนสู่เกมได้อีกครั้งหลังจากตีไข่แตกได้จากอเล็กซานดาร์ มิโตรวิชหลังเปิดฉากครึ่งหลังไปได้เพียงแค่นาทีเดียว  ก่อนที่ฟิลิป คอสติซจะมาซัลโวตีเสมอให้เจ้าถิ่นได้สำเร็จในนาทีที่ 60

                หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุก  ก่อนที่จะมาเกิดดรามาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวให้ทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที โดยที่โรนัลโด้สวมบทฮีโร่ส่งบอลผ่านตัวนายทวารเซอร์เบียอย่างมาร์โค ดมิโตรวิชในนาทีที่ 93 และบอลค่อย ๆ ไหลกำลังจะเข้าประตูแต่สเตฟาน มิโตรวิชวิ่งตามไปสกัดบอลออกไปได้สำเร็จ  ซึ่งดูจากทั้งภาพช้าและภาพนิ่งแล้วนั้นมันข้ามเส้นเข้าไปแล้วอย่างชัดเจน  และเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กัปตันทีมฝอยทองฉุนขาดถึงขั้นถอดปลอกแขนกัปตันทีมปาลงพื้นสนามหลังจบเกม

                จากผลเสมอในเกมดังกล่าวทำให้เซอร์เบียและโปรตุเกสมี 4 คะแนนเท่ากันแต่เซอร์เบียรั้งจ่าฝูงจากลูกได้เสียที่ดีกว่า โดยโปรแกรมนัดต่อไปเซอร์เบียมีคิวออกไปเยือนอาร์เซอร์ไบจานในวันที่ 30 มีนาคม 2564 ขณะที่โปรตุเกสจะออกไปเผชิญหน้ากับสมันน้อยอย่างลักเซมเบิร์ก  ซึ่งแปลงร่างเป็นหมูเขี้ยวตันบุกไปโค่นไอร์แลนด์ได้อย่างพลิกความคาดหมาย 1-0 ในวันเดียวกัน

                แม้ว่าโปรตุเกสจะมีแต้มเท่ากับจ่าฝูงอย่างเซอร์เบีย  แต่ก็จัดได้ว่าฟอร์มยังไม่เข้าที่ตามที่ควรจะเป็น  เนื่องจากนัดเปิดหัวของกลุ่มเอนั้นก็ได้แค่เฉือนอาเซอร์ไบจานไปแบบหืดจับ 1-0 แถมประตูชัยที่ได้ก็มาจากการทำเข้าประตูตัวเองของทีมเยือน  สำหรับกลุ่มนี้นั้นประกอบไปด้วยเซอร์เบีย,  โปรตุเกส,  ไอร์แลนด์,  อาเซอร์ไบจาน  และลักเซมเบิร์ก  ซึ่งดูแล้วคงเป็นการขับเคี่ยวแย่งแชมป์กลุ่มกันระหว่างเซอร์เบียกับโปรตุเกสเท่านั้นเอง  เนื่องจากทีมอย่างไอร์แลนด์,  อาเซอร์ไบจาน  และลักเซมเบิร์กคงเป็นได้เพียงแค่ไม้ประดับเท่านั้นเอง

แสดงเพิ่มเติม

Related Articles

takin slot nemo slot khotsian kaujing joker123 game epicwin slot pgslot game kingkong slotxo
Back to top button
P