บาร์ซ่าห่วงกุนสุดใจหลังวูบคาสนาม

บาร์เซโลน่า ทีมถังแตกแห่งลา ลีกาสเปน แสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อเซร์คิโอ อเกวโร่อย่างสุดฤทธิ์สุดใจ หลังจากดาวยิงจอมเก๋าทีมอาร์เจนติน่ามีอาการวูบ และเล่นต่อไม่ไหวในเกม ลาลีกาที่เปิดคัมป์นูแบ่งแต้มกันไปกับอลาเบส 1-1 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564
อเวโร่ย้ายมาล่าต่าข่ายให้บาร์เซโลน่าในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแบบไร้ค่าตัว หลังจากไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ทันทีที่จบซีซั่นที่แล้ว
สำหรับเกมดังกล่าวนับเป็นการลงล่าตาข่ายภายใต้ชุดบาร์เซโลน่าครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาจากแมนฯซิตี้ และอเกวโร่ก็ได้ลงเป็นตัวจริงในแผงหน้าภายใต้การกุมบังเหียนขัดตาทัพของเซร์จี้ บาร์ฆวน ซึ่งเข้ามาสานงานต่อจากโรนัลด์ คูมันที่โดนปลดออกจากตำแหน่งไปราวสายฟ้าแลบ
เหตุการณ์ดราม่าดังกล่าวเกินขึ้นในนาทีที่ 41 เมื่ออเกวโร่ล้มตัวลงไปนอนกับพื้นสนาม และมีอาการเจ็บที่บริเวณหน้าอกหน้าน่าตกอกตกใจ ก่อนที่จะเปลี่ยนเอาฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ดาวเตะทีมชาติบราซิล ลงไปทำหน้าที่แทน
หลังจากนั้นอเกวโร่ก็ได้ให้การเปิดเผยว่ามีอาการหน้ามืดพร้อมกับหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก่อนที่ทางบาร์เซโลน่าจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และทางแพทย์ก็ได้วินัจฉัยอาการของอดีตหัวหอกแอตเลติโก้ มาดริดว่าเป็นเพียงแค่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะเท่านั้นเอง นอกนั้นมันไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเลย
อย่างไรก็ดีทางฝั่งบาร์เซโลน่าก็ยังไม่ได้เปิดไฟเขียวให้อเกวโร่กลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมตามปกติแต่อย่างใด โดยยังคงให้สิงห์เฒ่าชาวอาร์เจนไตน์ได้พักรักษาปัญหาบาดเจ็บจนแน่ใจเป็นอย่างดีว่าพร้อมคืนสู่สังเวียนแข้ง
ฤดูกาลนี้บาร์เซโลน่าแทบไม่ต่างจากทีมในลีกธรรมดาทีมหนึ่ง หลังจากต้องเสียสัญลักษณ์ของสโมสรอย่างลีโอเนล เมสซี่ที่ย้ายไปเล่นให้ขาใหญ่ในลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง หลังจากหมดสัญญาค้าแข้งในถิ่นคัมป์นูเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่ามหาเทพลูกหนังทีมชาติอาร์เจนติน่าอุตส่าห์สละตัวสุด ๆ ด้วยการขอรับค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่เพียงครึ่งเดียวก็ตาม แต่ว่าบาร์ซ่าโดนมรสุดทางการเงินเข้าอย่างจังจนไม่มีปัญญาจ่ายค่าเหนื่อยแม้ละลงครึ่งหนึ่งแล้ว
ก่อนหน้านี้เพิ่งจะมีเหตุการณ์ที่ฮือฮาไปทั่ววงการฟุตบอลลูกหนังทั่วโลก หลังจากที่คริสเตียน อีริคเซ่น จอมทัพทีมชาติเดนมาร์ก มีอาการวูบจนหมดสติพร้อมลงไปกองกับพื้นสนามในช่วงก่อนหมดครึ่งเวลาแรกของศึกยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่เจ้าหน้าที่สนามจะรีบลงไปทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้อน แล้วจึงนำส่งโรงพยาบาลจนทำให้ดาวเดะแดนโคนมรอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชไปได้อย่างหวุดหวิด