สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีมยักษ์ใหญ่ในสกอตติชพรีเมียร์ลีกของสกอตแลนด์อย่างกลาสโกว์ เรนเจอร์ส คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2020 – 2021 จากสมาคมนักข่าวฟุตบอลสกอตแลนด์ ไปครองอย่างไร้ข้อกังขา หลังจากสามารถนำทัพ “ไลท์บลูส์” ผงาดกลับมาคว้าแชมป์สกอตติชพรีเมียร์ในฤดูกาลนี้ได้อีกครั้งอย่างสง่างาม
แม้ว่าเจอร์ราร์ดจะเพิ่งเข้ามากุมบังเหียกลาสโกว์ เรนเจอร์สได้เพียงเข้าปีที่ 3 แต่ก็สามารถทำผลงานได้สุดติ่งกระดิ่งโดราเอมอน หลังจากนำพลพรรคไลท์บลูส์กลับมาผงาดฟาดแชมป์ลีกสูงสุดแดนวิสกี้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี รวมทั้งยังเป็นการครองแชมป์สมัยที่ 55 อีกด้วย ขณะเดียวกันนั้นก็ยังนำเรนเจอร์สทะลุเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูโรป้า ลีกฤดูกาลนี้อีกเช่นกัน
ก่อนหน้านี้บรมกุนซือขั้นเทพอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยังอดปากที่จะชื่นชมความยอดเยี่ยมของเจอร์ราร์ดไม่ได้เลยทีเดียว หลังจากที่อดีตมิดฟิลด์กัปตันทีมแกร่งแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างลิเวอร์พูลยังคงสามารถรักษาสถิติไร้พ่ายในฤดูกาลนี้เอาไว้ได้มาจวบจนปัจจุบันนี้ และมีโอกาสที่จะจบซีซั่นด้วยสถิติไร้พ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากตอนนี้โกยไปแล้วเบ็ดเสร็จ 96 คะแนนจากชัยชนะ 30 เกมและเสมอไปเพียงแค่ 6 นัดเท่านั้นเอง
ขณะเดียวกันนั้นทางฝั่งของแฟนบอลแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูลคงต่างพากันโล่งอกโล่งใจไปไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่เฟอร์จีล ฟาน ไดค์ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่ร่วมทัพอัศวินสีส้มทำศึกยูโร 2020 ในช่วงกลางปีนี้ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน 2564 – 11 กรกฏาคม 2564 แม้ส่วนตัวจะรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ก็ตามที
ฟาน ไดค์ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่บริเวณตรงเอ็นไขว้หัวเข่าด้านหน้า ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บ และตอนนี้ก็อยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายพร้อมเรียกความฟิตเพื่อกลับมารับใช้ต้นสังกัดอีกครั้งให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งสตาร์ทีมชาติฮอลแลนด์วัย 29 ปีได้รับบาดเจ็บจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ที่บุกไปเสมอเอฟเวอร์ตัน 2-2 ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าฟาน ไดค์อยากจะไปรับใช้ชาติในศึกยูโร 2020 แต่ก็มีหลายฝ่ายต่างพากันเป็นห่วงในเรื่องของสภาพร่างกายที่ห่างเหินสังเวียนแข้งไปอย่างยาวนาน และเพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บได้ไม่นาน รวมไปถึงกุนซือของทีมอย่างเจอร์เก้น คล็อปป์ก็เป็นห่วงในเรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียวแต่ก็ไม่ได้ออกโรงขัดขวางอย่างจริงจังแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีทุกอย่างก็จบอย่างแฮปปี้เอนด์ดิ้งเมื่อฟาน ไดค์ยอมรับความเป็นจริงและเลือกที่จะรักษาเนื้อรักษาตัวเอาไว้ให้พร้อมช่วยลิเวอร์พูลทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับมาให้ได้อีกครั้งในฤดูกาลหน้า
