ขอนะที่ 3 “ปราสาทสายฟ้า” ไล่ยิง “ราชันมังกร” 10 ตัวนิ่ม 3-0 แซงขึ้นที่ 3

“ปราสาทสายฟ้า” เรียงหน้ายิงใส่ “ราชันมังกร” ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ช่วงท้ายเกมครึ่งแรก ไปขาดลอย 3-0 บุรีรัมย์ ขยับขึ้นที่ 3 ของตารางไทยลีก
“ปราสาทสายฟ้า” เพิ่งผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกช้างเอฟเอ คัพ หลังบุกไปเสมอ การท่าเรือ 0-0 ในเวลา 120 นาที ก่อนจะดวลจุดโทษชนะ 9-8 ส่วนผลงานในไทยลีกก่อนหยุดพักโควิดระลอกสอง ชนะ 5 จาก 6 นัดหลังสุด ทำให้ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 โดยมี 26 แต้มจาก 16 นัด
ส่วน “ราชันมังกร” เพิ่งผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ช้าง เอฟเอ คัพ เช่นกัน หลังบุกไปชนะ สงขลา เอฟซี 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะที่ผลงานในลีกรั้งอันดับ 3 จากการลงสนาม 16 นัดมี 29 แต้ม
เกมครึ่งแรกดำเนินไปถึงนาทีที่ 19 สกอร์แรกเกิดขึ้นทางฝั่งเจ้าบ้านเมื่อ ปิยพล ผานิชกุล ทุ่มบอลไกลเข้าเขตโทษ ซามูเอล โรซา ได้พักอกก่อนที่จะโดนผู้เล่นทีมเยือนเข้ามาพัวพันพยายามจะแย่งบอล ทว่า ซามูเอล โรซา เท้ายังไวเกี่ยวบอลได้ก่อนจะจิ้มบอลผ่าน อุกฤษณ์ วงศ์มีมา หายเข้าประตูไปให้ “ปราสาทสายฟ้า” ขึ้นนำ 1-0
ใบแดง!! นาทีที่ 42 “ราชันมังกร” ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อผู้ตัดสินเช็ค Var แล้วกลับมาให้ใบแดง อุกฤษณ์ วงษ์มีมา จากจังหวะออกมาตัดบอล ทำให้ ราชบุรี เปลี่ยน กัมพล ปฐมอรรฆกุลย์ ลงเฝ้าเสาแทน โดยถอด สิทธิโชค กันหนู ออก
จบ 45 นาทีแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังนำ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-0
ครึ่งหลัง ราชบุรี เปิดตัวได้ดุกว่า 10 คนแต่ได้บุกกดดันใส่บุรีรัมย์จนเกือบหงาย แต่ก็ยังสู้ไม่ได้ ก่อนโดนทิ้งห่างไป 2-0 จากจังหวะ สุภโชค สารชาติ เก็บบอลได้ตรงกึ่งกลางสนามฝั่งทีมเยือนก่อนจะลากบอลขึ้นไปแดนหน้าแล้วจ่ายเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ เควิน อินเกรโซ แต่งบอลก่อนจะจ่ายบอลทะลุมาที่กลางประตู อ่อง ธู วิ่งเข้าไปแปบอลหายเข้าประตูไปให้ บุรีรัมย์ นำห่าง 2-0
จุดโทษ ราชบุรีได้เฮหลังจากได้ลูกจุดโทษ ฟิลิป โรลเลอร์ ซัดจุดโทษได้ไม่ดีนัก ก่อนจะโดนศิวรักษ์เชฟดับฝันพลาดโอกาสตีไข่แตกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 74 บุรีรัมย์ ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ ปั่นข้ามกำแพงมุดเสาแรกให้ “ปราสาทสายฟ้า” นำห่างเป็น 3-0
ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 3-0 ทำให้ “ปราสาทสายฟ้า” แซงขึ้นที่ 3 ของตาราง ด้วยประตูได้เสียดีกว่า “ราชันมังกร”