ที่ 2 แล้วเด้อ “สุภโชค” ซัดจุดโทษ พา “ปราสาทสายฟ้า” คว้าชัย “กว่างโซ้ง” 1-0 ขึ้นรองฝูง

ฟอร์มแรงไม่หยุด บุรีรัมย์ชนะต่อเนื่อง 3 เกมติดขึ้นรองฝูง หลังจากเปิดบ้านเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 1-0 ผู้ทำประตู : 1-0 สุภโชค สารชาติ (จุดโทษ) น.71

ก่อนเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ที่มี 38 คะแนน จาก 21 นัด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ สิงห์ เชียงราย ทีมอันดับ 6 ของตาราง ที่มี 34 คะแนน จาก 20 นัด

เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที ปราสาทสายฟ้า ที่ครองเกมบุกได้ก่อนมาได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวา รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลเข้าไปที่เสาแรก ผู้เล่นเชียงราย เตะสกัดบอลออกมาเข้าทาง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ได้ตั้งเท้ากึ่งยิงกึ่งผ่าน เข้าไปในเขตโทษ อภิวัฒน์ งั่วลำหินพยายามจะเหยียดเท้าจิ้มบอล ทว่าบอลพุงแรงออกหลังไป

นาทีที่ 17 จักรพันธ์ แก้วพรมจ่ายบอลไปทางริมเส้นฝั่งขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดมเกี่ยวบอลได้ ก่อนจะลากบอลเข้าไปในเขตโทษไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนจะจ่ายบอลเรียดเข้าไปกลางประตู ศุภชัย ใจเด็ดพยายามพุ่งแหย่เท้าเข้าชาร์จทว่าบอลแรงไปทำให้เข้าชาร์จไม่ทัน

นาทีที่ 23 ปราสาทสายฟ้า ได้ลุ้นอีกครั้ง เควิน อินเกรโซ ได้บอลที่แถวสองหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะแต่งบอลตัดสินใจยิงไกลบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปไกล

อีก 5 นาทีต่อมา เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิก ศิวกรณ์ เตียตระกูล เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ ผู้เล่นปราสาทสายฟ้า โหม่งบอลทิ้งพ้นอันตรายออกมาได้

นาทีที่ 32 กว่างโซ้งมหาภัย ได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวา ศิวกรณ์ เตียตระกูล เปิดบอลโค้งด้วยเท้าซ้ายเข้าไปในกรอบ 6 หลา และก็เป็นอีกครั้งที่ผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช่วยกันสกัดบอลทิ้งออกมาจากอันตรายได้

ทดเจ็บครึ่งแรก จักรพันธ์ แก้วพรม ยกบอลเข้ากรอบเขตโทษมี เควิน อินเกรโซ วิ่งเติมเกมทะลุช่องเข้าไปในกรอบหวังจะไปให้ถึงบอล ศราวุธ อินทร์แป้น กองหลังทีมเยือนขยับเข้ามาเตะสกัด ทว่าจังหวะเตะโดนบอลไม่ดีบอลปลิ้นวิถีตรงกรอบ สรานนท์ ต้องออกแรงล้มตัวรับบอล

จากนั้นไม่มีจังหวะลุ้นกันเพิ่ม จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด อยู่ 0-0

ครึ่งหลังออกสตาร์ทมา 2 นาที ปราสาทสายฟ้า มาได้เตะมุมทางซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เควิน อินเกรโซ พุ่งเข้าไปโหม่งบอล ทว่าคุมทิศทางบอลไม่ดีบอลพุ่งแรงออกหลังไป

นาทีที่ 48 เควิน อินเกรโซ ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตก่อนจะตัดสินใจยิงบอลแบบชิพ สรานนท์ อนุอินทร์ นายด่านทีมเยือนปัดบอลข้ามคานออกไปได้

นาที 52 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ได้กระชากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษด้านขวาก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจยิงบอลเร็ว ทำให้บอลปลิ้นออกหลังไป

อีก 3 นาทีต่อมา ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้ยิงจากแถวสองบอลพุ่งแฉลบกองหลังจะเข้าประตู แต่ทว่า สรานนท์ อนุอินทร์ ล้มตัวสกัดบอลได้ด้วยเท้า ทำให้สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0

เอาจนได้ สำหรับเจ้าบ้านหลังจากบี้อยู่นาน บุรีรัมย์ได้จุดโทษจากจังหวะที่ นฤบดินทร์ ถูก สุริยา สิงห์มุ้ยเสียบล้มลงในเขตโทษ ไพโรจน์ บุญกำเนิดผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าให้เป็นจุดโทษ สุภโชค สารชาติ รับหน้าที่สังหารยิงนิ่มๆ เข้าประตูไปให้ ปราสาทสายฟ้า ออกนำ 1-0 นาทีที่ 71

นาทีที่ 86 เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เริ่มตั้งเกมบุกได้ มาได้ลุ้น ชัยวัฒน์ บุราญ กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษสุดเส้นหลังก่อนจะตัดสินใจล้มตัวยิงที่เสาแรก ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อ่านเกมยืนปิดเสาก้มลงไปรับบอลได้สบาย

จบเกม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ “กว่างโซ้ง” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปแบบหวุดหวิด 1-0 มีเพิ่มเป็น 41 คะแนนเท่ากับ การท่าเรือ เอฟซี แต่ประตูได้เสียดีกว่า จึงแซงการท่าเรือขึ้นรองจ่าฝูง

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, พรรษา เหมวิบูลย์, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, เควิน อินเกรโซ่, รัตนากร ใหม่คามิ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, จักรพันธ์ แก้วพรม, สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด : สรานนท์ อนุอินทร์, วสันต์ ฮมแสน, บรินเนอร์ ซูซ่า, ชินภัทร์ ลีเอาะ, สุริยา สิงห์มุ้ย, ศราวุธ อินทร์แป้น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, เฟลิเป้ อโมริม, จอร์นาตา แวร์ซูรา, บิล โรซิมาร์