เลวานตำนานดาวซัลโวบุนเดสลีกา

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เครื่องจักรสังหารทีมชาติโปแลนด์ ประกาศความยิ่งใหญ่ในเวทีบุนเดสลีกาเยอรมันด้วยการผงาดขึ้นครองบัลลังก์ดาวซัลโวตลอดกาลคนใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากกดเพิ่มได้อีกเม็ดให้บาเยิร์น มิวนิคฉลองถาดแชมป์บุนเดสลีกาด้วยการเปิดอัลลิอันซ์ อารีน่าไล่ต้อนเอาก์สบวร์กไปอย่างขาดลอย 5-2 ในเกมรูดม่านปิดฉากลีกสูงสุดของเมืองเบียร์ฤดูกาลนี้เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2564
ก่อนหน้านี้ตำแหน่งดาวซัลโวสตลอดกาลของบุนเดสลีกาเป็นของแกร์ด มุลเลอร์ ดาวยิงตำนานทีมชาติเยอรมัน ที่เคยทำเอาไว้อยู่ยงคงกระพันนับตั้งแต่ที่ค้าแข้งกับบาเยิร์น มิวนิคเมื่อฤดูกาล 1971 – 1972 ด้วยจำนวน 40 ประตู แต่จากการบวกเพิ่มอีกเม็ดของเลวานดอฟสกี้ ทำให้กลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่ไปในทันทีที่จำนวน 41 ประตู
นับเป็นการคว้ารางวัลดาวซัลโวบุนเดสลีกาสมัยที่ 6 ของเลวานดอฟสกี้ นอกจากนี้ยังทำให้เขาเป็นพ่อค้าแข้งรายแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังเยอรมันที่สามารถกวาดตำแหน่งดาวซัลโวได้ติดต่อกันเป็นฤดูกาลที่ 4 หลังจากที่เคยฟาดรางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปในฤดูกาล 2013 – 2014, 2015 – 2016, 2017 – 2018, 2018 – 2019, 2019 – 2020, 2020 – 2021
อย่างไรก็ดีกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายแต่อย่างใด เนื่องจากเลวานดอฟสกี้ต้องลุ้นชนิดเรียกว่าเลือดตาแทบกระเด็นเลยก็ว่าได้ หลังจากประตูที่ 41 ของเขาในซีซั่นนี้มาเอาในนาทีสุดท้ายของเกมดังกล่าวเลยทีเดียว
แม้ว่าครึ่งแรกบาเยิร์น มิวนิคจะเปิดบ้านกระซวกเอาก์สบวร์กไปอย่างขาดลอย 4-0 แต่ก็ยังไม่มีชื่อของเลวานดอฟสกี้ปรากฏอยู่บนสกอร์บอร์ดเสียที ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสในการบวกสกอร์เพิ่มไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าจังหวะก็ยังไม่เป็นใจให้ซักที
เมื่อเวลาการแข่งขันงวดลดลงไปเรื่อย ๆ ความกดดันก็ยิ่งตกไปอยู่กับเลวานดอฟสกี้ ก่อนที่ทุกอย่างเหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้เขาเป็นผู้ปิดสถิติของดาวยิงรุ่นพ่อร่วมสโมสร แต่ก็ต้องรอเอาจนเกมดังกล่าวก้าวเข้าสู่นาทีสุดท้าย
สำหรับความประทับใจที่เลวานดอฟสกี้ไม่อาจลืมไปได้ตลอดชีวิตนั้นมาจากจังหวะที่ลีรอย ซาเน่ ซึ่งถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม สับไกจากบริเวณหัวกะโหลกนอกกรอบเขตโทษ แล้วนายทวารของเอาก์สบวร์ก ซึ่งโชว์ซูเปอร์เซฟมาแทบทั้งเกม ปัดบอลออกมาเข้าทางเลวานดอฟสกี้ล็อกบอลหลบหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายโล่ง ๆ ได้สำเร็จ
จากการเจ้าเป็นของสถิติใหม่นี้นับเป็นการการันตีความเป็นเพชฌฆาตเบอร์หนึ่งของเลวานดอฟสกี้ในชั่วโมงนี้ได้เป็นอย่างดีแบบไร้ข้อกังขาไปเลย