พี่เสือเถือติเกรสชูถ้วยสโมสรโลกสมัยสอง

บาเยิร์น มิวนิค ตัวพ่อในบุนเดสลีกาเยอรมัน คว้าแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2020ไปครองได้ไม่ผลิกโผ หลังจากเฉือนชนะติเกรส ทีมแกร่งแห่งลีกเม็กซิโก ไปตามเป้า 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 นับเป็นการครองจ้าว สโมสรโลกเป็นสมัยที่สอง ของเสือใต้จากเมืองเบียร์อีกด้วย
เปิดฉากครึ่งแรกมาก็เป็นฝ่ายบาเยิร์นที่ครองเกมได้เหนือกว่า และมีโอกาสที่จะออกนำในนาทีที่ 18 จากจังหวะที่เลรอย ซาเน่ผ่านบอลเรียดจากกลางสนามทางด้านขวาให้โยชัว คิมมิชรับบอลตะบันจากระยะ 22 หลา บอลพุ่งติดจรวดราวฟงหวินขี่พายุทะลุฟ้าชนิดที่นาอูเอล กุซมันได้แต่ใช้สายตาเซฟเท่านั้น แต่เสือใต้ดันไม่ได้ประตูขึ้นนำเมื่อภาพจากวีเออาร์ฟ้องว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลังจากที่ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์พยายามหลบให้บอลเข้าไปตุงตาข่าย
หลังจากนั้นพี่เสือก็เดินเกมรุกใส่เต็มสูบและมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 25 เมื่อคิงส์เล่ย์ โคมันลากบอลแหวกตะลุยเลาะเข้ามาทางเขตโทษด้านซ้ายแล้วกดเต็มข้อล่อเต็มแข้ง แต่นาอูเอล กุซมันโชว์ซูเปอร์เซฟเหินปัดออกไปได้อย่างงดงาม
ครึ่งหลังเกมยังตกเป็นของฝั่งบาเยิร์นที่ประเคนเกมรุกใส่นวดอย่างต่อเนื่องจนขึ้นนำได้สำเร็จในนาทีที่ 59 โดยคิมมิชบรรจงหยอดบอลจากกลางสนามระยะราว 25 หลาเข้าไปในเขตโทษให้เลวานดอฟสกี้ชิงเหลี่ยมโหม่งตัดหน้ากุซมัน แล้วบอลกระฉอกไปเข้าทางปืนเบนฌาแม็ง ปาวาร์เติมขึ้นมาซ้ำโล่ง ๆ 1-0แม้ว่าทีแรกผู้ตัดสินจะเป่าเป็นล้ำหน้า แต่เช็กจากวีเออาร์แล้วให้เป็นประตูชัยของเสือใต้ในแมตช์นี้
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมบาเยิร์นมีลุ้นเม็ดสองจะ ๆ แต่พลาดไปทั้งสองครั้งสองคราอย่างน่าเสียดาย โดยโกร็อตแต็ง โตลิสโซ่ลองส่องจากนอกเขตโทษบอลพุ่งไปติดปลายมือกุซมันพุ่งชนเสาออกไป ก่อนที่ตัวแทนจากโซนคาเคฟเกือบพลาดแพ้ภัยตัวเองจากจังหวะโขกคืนหลังไม่รู้กัน แต่ยังดีที่ว่ากุซมันยังตามไปคว้าบอลได้ทันท่วงที
ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในแมตช์นี้ทำให้บาเยิร์นกลายเป็นสโมสรที่สองของโลกต่อจากบาร์เซโลน่าที่กวาดแชมป์ไปครองได้ 6 รายการภายในหนึ่งปี ซึ่งบาร์ซ่าเคยทำเอาไว้ในยุคทองของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเมื่อปี 2009 ก่อนหน้านี้พี่เสือฟันแชมป์ไปแล้ว 5 รายการไล่ไปตั้งแต่ถาดแชมป์บุนเดสลีกา, แชมป์เดเอฟเบ โพคาล, ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, แชมป์เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ และถ้วยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ