ดาบิด เด เคอา นายทวารจอมเก๋าทีมชาติสเปน ลบล้างอาถรรพ์ที่คอยตามหลอกหลอนจากการพลาดเซฟจุดโทษมาอย่างยาวนานเกือบ 7 ปีลงไปได้อย่างสวยสดงดงาม หลังจากสวมบทฮีโร่พุ่งปัดจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกไปปล้นชัยเหนือเวสต์แฮม ยูไนเต็ดไปได้แบบหืดจับ 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564
แม้ว่าเกมดังกล่าวเวสต์แฮม ยูไนเต็ดจะเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนหลังเกมผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 5 นาทีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ก็ซัลโวอย่างต่อเนื่องไล่ตีเสมอให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ก่อนที่เจสซี่ ลินการ์ดจะสวมบทซูเปอร์ซับลงไปสับลูกสุดสวยในช่วงท้ายเกมให้ปีศาจแดงแซงขึ้นนำในช่วงท้ายเกม 2-1
แต่แมตช์นี้ก็มีซีนดราม่าจนได้เมื่อแมนฯยูฯไปพลาดเสียจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากการทำแฮนด์บอลของลุค ชอว์ และเดวิด มอยส์ก็มั่นหน้ามั่นโหนกเป็นอย่างยิ่งด้วยการส่งมือสังหารจุดโทษอันดับหนึ่งของทีมอย่างมาร์ค โนเบิ้ลลงไปเป็นตัวสำรองเพื่อทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ ก่อนที่แฟนบอลขุนค้อนจะต่างพากันผิดหวังไปตาม ๆ กันเมื่อดันสังหารจุดโทษไปติดเซฟของเค เคอา
ก่อนหน้านี้ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อกันบนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริงว่ามือปลาหมึกอย่างเด เคอาจะไม่สามารถป้องกันจุดโทษให้ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติมัดรวมกันแล้วเป็นระยะเวลาสุดแสนจะยาวนานมากถึง 40 ครั้งเลยทีเดียว โดยหนสุดท้ายที่สามารถป้องกันลูกจุดโทษได้นั้นมันต้องย้อนกลับไปในเกมเอฟเอ คัพรอบรองชนะเลิศปี 2016 ที่เผชิญหน้ากับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเด เคอาเซฟจุดโทษได้จากการสังหารของโรเมลู ลูกากู
นอกจากนี้เด เคอายังต้องอดทนที่จะกลับมาเซฟจุดโทษได้ในศึกพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งนานเกือบ 7 ปีเลยทีเดียว โดยหนหลังสุดนั้นมันเป็นการเซฟจุดโทษของเลห์ตัน เบนส์ ฟูลแบ็กของเอฟเวอร์ตัน ในเกมลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีเมื่อเดือนตุลาคม 2014
สามแต้มอันล้ำค่าในเกมนี้ทำให้แมนฯยูฯยังคงเกาะกลุ่มผู้นำร่วมในตารางพรีเมียร์ลีกด้วยการเก็บไปได้ 13 คะแนนจาก 5 เกมแรกในฤดูกาลนี้เช่นเดียวกับเชลซีและลิเวอร์พูล แต่สิงห์บลูรั้งจ่าฝูงอยู่ในตอนนี้ด้วยตัวอักษรนำหน้าของสโมสรที่อยู่เหนือหงส์แดง หลังจากที่ทั้งคู่ต่างนัดกันฟันชัยในเกมล่าสุดไปด้วยสกอร์เท่ากัน 3-0 ทำให้มีผลต่างประตูได้เสียหักกลบลบหนี้แล้วเท่ากันอยู่ที่ยิงได้ 12 และเสียไปเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้นเอง
