สื่อผู้ดีชี้เดเคอาเริ่มมองหาสังกัดใหม่

สื่อชื่อดังของอังกฤษอย่าง “เดลี่ เมล” ออกมาเปิดเผยว่าดาบิด เด เคอาเริ่มจะออกเดินสายหาต้นสังกัดใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากฟอร์มตกจนหลุดจากตำแหน่งนายทวารมือหนึ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้งยังส่งผลให้ไม่ได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงให้กับทีมชาติสเปนในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนยุโรปกลุ่มบีเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
ฤดูกาลนี้นับได้ว่าเด เคอาทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานเป็นอย่างมาก ทำให้แมนฯยูฯแทบจะเสียประตูเป็นว่าเล่นทุกนัด และนั่นก็ส่งผลให้อนาคตในการค้าแข้งยังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดของมือกาวจากแดนกระทิงดุต้องตกอยู่ภายใต้เครื่องหมายคำถามมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ล่าสุดกุนซือของทีมอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชายังมอบความไว้วางใจให้ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติอังกฤษ ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่นายทวารเบอร์หนึ่งของปีศาจแดงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ทำให้สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดีชี้ชัดว่าเด เคอาต้องการหาต้นสังกัดใหม่ และล่าสุดเจ้าตัวพร้อมทีมงานก็ได้ติดต่อไปยังหลายสโมสรชั้นนำในยุโรปเพื่อโอกาสในการย้ายทีมให้สำเร็จ
แม้ว่าทางแมนฯยูฯจะยังไม่ได้ออกมาทำการตีค่าตัวในการย้ายทีมของเด เคอาอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่เชื่อกันเหลือเกินว่าทางผีแดงคงต้องการค่าตัวของมือกาววัย 30 ปีนี้มากถึง 50 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 2,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีจ่าฝูงลา ลีกาสเปนอย่างแอตเลติโก้ มาดริดอาจตัดสินใจที่จะอ้าแขนรับเด เคอากลับคืนสู่ถิ่นเก่าอีกครั้ง หากทีมตราหมีต้องเสียประตูมือดีขั้นเทพอย่างยาน โอบลัคไปในช่วงซัมเมอร์นี้ ขณะที่คู่แข่งร่วมลีกและร่วมเมืองของแอต.มาดริดอย่างเรอัล มาดริดอาจกลับมาให้ความสนใจในตัวเด เคอาอีกครั้งหากว่าค่าตัวนั้นมันสมน้ำสมเนื้อ
นอกจากทั้งแอตเลติโก้ มาดริดและเรอัล มาดริดที่ต่างสนใจในตัวเค เคอาแล้วนั้น ทางด้านมหาอำนาจลูกหนังและเจ้าบุญทุ่มจากลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมงก็อาจจะร่วมแจ่มด้วยเช่นกัน แต่ปัญหามันอาจจะติดอยู่ตรงที่ว่าตอนนี้เด เคอานั้นฟันค่าเหนื่อยจากแมนฯยูฯมากถึงสัปดาห์ละ 375,000 ปอนด์ ซึ่งหากคิดเป็นเงินไทยแล้วอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท
ทั้งนี้ทั้งนั้นจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ทรุดฮวบไปจากการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะโควิด ทำให้เหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่ต่างคงต้องตรึกตรองให้ถี่ถ้วนมากกว่าเดิมในการที่จะเสริมทัพ ซึ่งอาจจะไม่ได้เห็นการทุ่มเงินกันอย่างบ้าคลั่งดังเดิม