เปแอสเชจับดรักซ์เลอร์ต่อสัญญาสามปี

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เจ้าบุญทุ่มแห่งลีกเอิงฝรั่งเศส จัดแจงจับ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ดาวเตะทีมชาติเยอรมัน เซ็นสัญญาฉบับใหม่ออกไปเป็นเวลา 3 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สัญญาฉบับเดิมจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์นี้
ดรักซ์เลอร์ย้ายจากทีมแกร่งแห่งบุนเดสลีกาเยอรมันอย่างเฟาเอฟแอล โวล์สบวร์กเข้ามาร่วมทัพเปแอสเชเมื่อเดือนมกราคมปี 2017 และซัลโวให้โคตรทีมแห่งกรุงปารีสไปแล้ว 24 ลูกบวกกับอีก 39 แอสซีสต์จากการลงเล่นไปทั้งหมดแล้ว 173 นัด และสัญญาฉบับใหม่จะส่งผลให้เขาอยู่กับทีมยาวไปจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2024 เลยทีเดียว
แม้ว่าดรักซ์เลอร์จะไม่ได้เป็นคีย์แมนที่เปแอสเชแทบขาดไม่ได้ก็ตาม แต่พ่อค้าแข้งวัย 27 ปีก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จร่วมกับทีมอย่างมากมายไล่ไปตั้งแต่แชมป์ลีกเอิง 3 สมัย, แชมป์เฟร้นซ์ คัพ 3 สมัย และแชมป์เฟร้นซ์ลีก คัพอีก 3 สมัย
ทางด้านแชมป์เอฟเอ คัพอังกฤษป้ายแดงอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ที่โค่นเชลซีลงได้ 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 พร้อมผงาดคว้าแชมป์ถ้วยเก่าแก่ที่สุดของเมืองผู้ดีใบนี้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ทำการเฉลิมฉลองด้วยกาตแจกโบนัสให้กับนักเตะทุกคนเป็นจำนวนคนละ 40,000 ปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 1.6 ล้านบาท
เลสเตอร์ ซิตี้ภายใต้การบริหารของกลุ่มทุนจากไทยอย่าง “คิง เพาเวอร์” ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นเลยทีเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการลูกหนังเมืองผู้ดีด้วยการหักปากกาเซียนสร้างเซอร์ไพรส์สุโค่ยโดยการฟาดแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษเป็นหนแรกของประวัติศาสตร์สโมสรไปครองได้เมื่อฤดูกาล 2015 – 2016 และได้จัดหนักจัดเต็มตบรางวัลด้วยการแจกรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูให้กับนักเตะทุกคน
ทั้งนี้ทั้งนั้นบรรดานักเตะของเลสเตอร์ ซิตี้ยังมีลุ้นโบนัสก้อนใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า โดยหากพวกเขาสามารถร่วมแรงร่วมใจกันคว้าโควตาไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จก็จะรับทรัพย์เพิ่มกันถ้วนหน้าอีกไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับสถานการณ์การลุ้นตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซีซั่นหน้าในปีนี้ลุ้นกันมันหยดเลยทีเดียว โดยตอนนี้เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างทั้งเลสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และลิเวอร์พูล ซึ่งจะมีเพียงแค่สองทีมเท่านั้นที่สมหวัง และตอนนี้ทีมจิ้งจอกสยามรั้งที่ 3 มี 66 คะแนนจาก 36 นัดทิ้งห่างสิงห์บลูและหงส์แดง 2 และ 3 แต้มตามลำดับ ขณะที่โปรแกรมในฤดูกาลนี้เหลืออีกเพียงแค่สองเกมสุดท้ายเท่านั้น
อย่างไรก็ดีค่ำคืนวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2564 เลสเตอร์ ซิตี้มีโปรแกรมนัดสำคัญที่เรียกได้ว่าเป็นนัดชี้ชะตาเลยก็ว่าได้ โดยลูกทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์สจะยกพลบุกไปเยือนเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ และหากทีมจิ้งจอกสยามปล้นชัยกลับออกมาได้ก็จะตีตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าทันที