ทาดิชพิชิตสถิติโคตรโหดของเมสซี่

ดูซาน ทาดิช ดาวเตะทีมชาติเซอร์เบีย กลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่ในการทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในปีปฏิทิน ( 1 มกราคม – 31 ธันวาคม) คนใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากสตาร์ยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ดัตช์อย่างอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมโค่นสถิติโคตรโหดของลีโอเนส เมสซี่ มหาเทพลูกหนังทีมชาติอาร์เจนติน่าของเจ้าบุญทุ่มแห่งลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งยืนหยัดอย่างคงทนมายาวนานร่วม 10 ปี ลงได้อย่างสวยสดงดงาม
ก่อนหน้านี้เมสซี่เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการลูกหนัง หลังจากสามารถระเบิดฟอร์มเทพเหมาแอสซีสต์ไปได้ในปีปฏิทินเดียวกันมากที่สุดจารึกเอาไว้เป็นสถิติที่ 36 ครั้ง นับตั้งแต่ตอนที่ยังค้าแข้งอยู่กับทีมดังในลา ลีกาสเปนอย่างบาร์เซโลน่า ซึ่งต้องย้อนกลับไปในปี 2011 เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีตอนนี้ทาดิชแซงหน้าขึ้นไปเป็นเจ้าของสถิติใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ตัวเลขกลม ๆ 37 แอสซีสต์ และยังมีโอกาสถวายพานทองให้เพื่อนร่วมทีมกระทุ้งตาข่ายเหลืออยู่ในมืออีก 2 เกม ซึ่งเป็นศึกพรีเมียร์ดัตช์ที่อาแจ๊กซ์จะยกพลออกไปเยือนเฟเยนูร์ด และส่งท้ายปีด้วยการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของฟอร์ทูน่า ซิททาร์ด
ขณะเดียวกันนั้น ทางด้านของโรนัลโด้ สุดยอดตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิล กลายเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจาก “โล้นทองคำ” เข้าเทกโอเวอร์ทีมดังในบ้านเกิดอย่างครูไซโร่ ปาดหน้าเค้กเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล
เดิมทีโรนัลโด้มีสโมสรเป็นของตัวเองอยู่แล้วอย่างเรอัล บายาโดลิด ทีมแกร่งแห่งเซกุนด้า ลีกาสเปน ซึ่งเป็นทีมระดับดิวิชั่น 2 ของแดนกระทิงดุที่ซื้อเอาไว้เมื่อปี 2018 ก่อนที่จะก้าวเข้ามาฮุบกิจการครูไซโร่ โดยการจัดแจงแซงหน้ากลุ่มเฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) ซึ่งเป็นเจ้าของลิเวอร์พูล ด้วยการช้อนหุ้นของอดีดยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิด ซึ่งตอนนี้ร่วงลงไปเล่นในเซเรีย บี ซึ่งเป็นระดับลีก 2 ของเมืองกาแฟ ด้วยการเป็นเจ้าของหุ้นรายใหญ่ที่สุดจากการกวาดหุ้นไปมากถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว
โรนัลโด้เริ่มต้นเส้นทางการค้าแข้งจากการเล่นอยู่กับครูไซโร่ในช่วงระหว่างปี 1993 – 1994 และฉายแววเครื่องจักรสังหารตั้งแต่วัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น โดยสามารถไล่ล่าตาข่ายไปได้เบ็ดเสร็จ 44 เม็ดจากการลงเล่นไปในทุกรายการ 47 เกม ทำให้โคตรทีมแห่งพรีเมียร์ดัตช์อย่างพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นค้นพ้นเพชรเม็ดงามพร้อมคว้าตัวไปโลดแล่นบนสังเวียนแข้งในยุโรป ก่อนที่จะสำลักความสำเร็จไปแบบจุก ๆ ทั้งในการเล่นระดับสโมสรและทีมชาติ จากการค้าแข้งที่ผ่านมาทั้งหมด