เซาธ์เกตจ่อต่อสัญญาคุมสิงโตคำราม

แกเร็ธ เซาธ์เกต เตรียมได้รับความดีความชอบไปแบบจุก ๆ หลังจากมีข่าวว่าอังกฤษเตรียมเปิดฉากเจรจาสัญญาฉบับใหม่ที่จะทำให้คุมทัพสิงโตคำรามไปจนถึงปี 2024 พร้อมฟันค่าเหนื่อยราว 5 ล้านปอนด์ต่อไป จากการายงานของสื่อผู้ดียี่ห้อดังอย่าง “เดอะ เทเลกราฟ”
สำหรับสัญญาฉบับใหม่จะส่งผลให้เซาธ์เกตกุมบังเหียนอังกฤษออกไปจนหลังจับศึกยูโร 2024 โดยสัญญาฉบับใหม่นั้นจะฟันค่าเหนื่อยต่อปีราว 5 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 220 ล้านบาท แต่นั่นก็ยังไม่เคยค่าเหนื่อยสูงสุดที่กุนซือสิงโตคำรามได้รับ โดยอันดับหนึ่งที่ยังอยู่ยงคงกะพันมาจวบจนทุกวันนี้นั่นก็คือขรํวเฒ่าชาวอิตาเลี่ยนอย่างฟาบิโอ คาเปลโล่ ซึ่งรับทรัพย์ไปเหนาะ ๆ ตกปีละ 6 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 264 ล้านบาทเลยทีเดียว
เซาธ์เกตถูกดันขึ้นมาจากชุดอายุไม่เกิน 21 ปี และก้าวเข้ามาป็นกุนซือขัดตาทัพแทนที่ของแซม อัลลาร์ไดซ์ ซึ่งตกเป็นข่าวอยู่ในตอนนั้น และอดีตแข้งสิงโตคำรามก็ได้ถ่ายทอดวิชาพร้อมฝึกปรือให้พลพรรคทรีไลออนส์มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เข้ามาขัดตาทัพเป็นมวยแทน “บิ๊กแซม” เมื่อเดือนกันยายา 2016 และกพิสูจน์ฝีมือให้เห็นจนได้รับสัญญาถาวรในเวลาต่อมา
โดยผลง่าล่าสุดนั้นมันชั่งขัดใจแฟนบอลเมืองผู้ดีเป็นอย่างยิ่งยวด เนื่องจากอดฟาดแชมป์ยูโรสมัยแรกในประวัติศาสตร์อย่างเจ็บปวดทั้ง ๆ ที่ถ้วยยูโร 20 รออยู่ให้มาคว้าไป แต่สุดท้ายหลังหมด 120 นาทียังหาทีมชนะไม่ได้ ก่อนที่จะกลายเป็นอิตาลีที่พกดวงมาดวลจุดเอาชนะพร้อมคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้ไปคอรงเป็นสมัยที่ 2
อย่างไรก็ดีนับตั้งแต่การก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการชาติอังกฤษดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่นไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น ขณะเดียวกันที่เกมรุกที่โหดจัดปลัดบอกเลยทีเดียว สำหรับสถานีต่อไปที่อังกฤษจะไปลุ้นแชมป์นั่นก็คือศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ซึ่งแฟนเมืองผู้ดีทั้งหลายคงต่าวร่วมกันภาวนาให้ไปถึงการคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จสักที หลังจากที่คอยได้แต่เป็นแค่พระรองมาแทบตลอด
นอกจากเซาธ์เกตุจะนำอังกฤษคว้ารองแชมป์ศึกยูโร 2020 ไปหมาด ก่อนหน้านี้ยังเคยนำทัพสิงโตคำรามตบเท้าเข้ารอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซียมาแล้วอีกด้วย
สุดท้ายเชื่อว่าสิ่งที่วาวกเมืองผู้ดีผิดหวังมากที่สุดนั่นก็คือการพ่ายดวลจุดโทษต่ออิตาลี โดยเหตุการณ์นั้นถูกนำพามาเหมือนเขียนบทให้อังกฤษต้องได้แชมป์แน่อน แต่สุดท้ายแม้แต่จะได้เล่นในเวมบลี่ย์ รวมทั้งยังมีแฟนบอลเข้าไปเชียร์กันอย่างล้นหลาม ก่อนที่สุดท้ายฝันจะสลายไปเมื่อวันนั้นเทพีแห่งโชคไม่ได้เข้าข้างอังกฤษนั่นเอง