โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงจอมเก๋าทีมชาติโปแลนด์ของตัวพ่อในบุนเดสลีกาเยอรมันอย่างบาเยิร์น มิวนิค ประกาศความเป็นเครื่องจักรสังหารล่าตาข่ายเบอร์หนึ่งโลกอย่างชัดเจน หลังจากกวาดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมชายของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประจำปี 2021 ไปครองตามความคาดหมาย ซึ่งนับได้ว่าเป็นการกวาดรางวัลอันทรงเกียรตินี้สองปีติดต่อกันเลยทีเดียว
จากฟอร์มที่โหดจัดปลัดบอกในปี 2021 ของเลวานดอฟสกี้ ทำให้สามารถแซงเลโอเนล เมสซี่ มหาเทพลูกหนังทีมชาติอาร์เจนติน่าของทีมเจ้าบุญทุ่มในลีกเอิงอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซุปตาร์ทีมชาติอียิปต์ของทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างลิเวอร์พูลไปได้อย่างชิล ๆ
ฤดูกาลที่ผ่านมาเลวานดอฟสกี้เดินหน้าไล่ล่าตาข่ายให้บาเยิร์น มิวนิคได้เป็นกอบเป็นกำจากการทำไปเบ็ดเสร็จ 48 เม็ดจากการลงเล่นให้เสือใต้ไปในทุกรายการ 40 เกม รวมทั้งยังช่วยให้ต้นสังกัดฟันแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพได้อีกสมัยด้วย และซีซั่นนี้ก็ยังคงรักษาฟอร์มเทพได้อย่างต่อเนื่องจากการกระทุ้งไปแล้ว 34 ตุงในการลงเล่นไปทุกรายการ 26 นัด
ทางด้านคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกสของทีมขาลงในพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับรางวัลพิเศษจากทางฟีฟ่าไปครองประดับเกียรติยศในอาชีพค้าแข้ง โดยเป็นรางวัลนักฟุตบอลชายที่สามารถทำประตูให้ทีมชาติได้มากที่สุดในโลก
โรนัลโด้สามารถโค่นสถิติที่อยู่ยงคงกระพันของอาลี ดาอี ตำนานดาวยิงทีมชาติอิหร่าน ที่ทำเอาไว้ที่ 109 ประตูลงไปได้อย่างสวยสดงดงามด้วยวัย 36 ปี หลังจากพังประตูให้ทีมบ้านเกิดได้ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนยุโรปที่เบียดชนะไอร์แลนด์ 2-1 เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนปี 2021 และก็ยังคงส่องเป้าไปได้อย่างต่อเนื่องจนตอนนี้ซัลโวให้ทัพฝอยทองไปแล้วเบ็ดเสร็จ 115 เม็ดจากการลงเล่นไป 184 เกม
ขณะที่อีกหนึ่งรางวัลที่บรรดาคอลูกหนังทั้งหลายต่างให้ความสนใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว และนั่นก็คือรางวัลโค้ชทีมฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า โดยปี 2021 นี้ตกเป็นของโธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมคนเก่งของมหาอำนาจลูกหนังในพรีเมียร์ลีกอย่างเชลซี ที่ปาดหน้าสองกุนซือมือเทพอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปอีกสมัย และโรแบร์โต้ มันชินี่ ซึ่งนำอิตาลีครองความเป็นจ้าวยุโรปในเชิงลูกหนังจากการคว้าแชมป์ยูโร 2020
ก่อนหน้านี้ทูเคิ่ลเพิ่งจะได้รางวัลโค้ชฟุตบอลชายยอดเยี่ยมจากทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ไปครองมาหมาด ๆ และนับได้ว่าเป็นปีทองของจอมวางหมากจากเมืองเบียร์วัย 48 ปี ซึ่งมาจากความยอดเยี่ยมที่นำเชลซีผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อีกสมัย
นอกจากนี้รางวัลโค้ชฟุตบอลชายยอดเยี่ยมตลอด 3 ปีที่ผ่านมานั้นมันตกเป็นของกุนซือจากเยอรมันล้วน ๆ โดยเจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือมือทองของลิเวอร์พูล กวาดไปสองสมัยซ้อนเมื่อปี 2019 และ 2020
