เซาธ์เกตคุมสิงโตคำราวยาวถึง 2024

แกเร็ธ เซาธ์เกตได้รับการต่อสัญญาให้กุมบังเหียนทีมชาติอังกฤษยาวไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2024 หลังจากทำตามกฎกติกามารยาทที่ตกลงกันไว้กับทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ว่าจะได้รับสัญญาฉบับใหม่ทันทีที่สามารถนำขุนพลสิงโตคำราวตบเท้าเข้าสู่ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ได้สำเร็จ
เซาธ์เกตเข้ามารับหน้าที่กุนซือขัดตาทัพแทนที่ของแซม อัลลาร์ไดซ์ ซึ่งโบกมือลาไปทั้งที่ได้คุมทัพทรีไลออนส์ไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น เมื่อเดือนกันยายน 2016 ก่อนที่จะทำผลงานได้เข้าตาจนได้รับสัญญาฉบับถาวรในอีกสองเดือนถัดมาเท่านั้นเอง
การเข้ามาของเซาธ์เกตนั้นมันเห็นได้ชัดว่าอังกฤษมีผลงานที่พัฒนาดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีปรับระบบการเล่นต่าง ๆ ตลอดจนสอดแทรกแทคติกต่าง ๆ เข้าไปอีกด้วย ขณะเดียวกันนั้นมันก็นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองที่ชั่วโมงนี้มีนักเตะอังกฤษฝีเท้าเยี่ยมให้เลือกใช้บริการแทบทุกตำแหน่ง เรียกได้ว่าไล่ไปตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้ากันเลยทีเดียว
อังกฤษในยุคของเซาธ์เกตนั้นมันจัดได้เลยว่าเล่นได้อย่างดุดันมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถยึดหยุ่นในการปรับหมากจากการพบคู่แข่งแต่ละแมตช์ ไม่ว่าจะเป็นการให้ปราการหลัง 4 ตัวหรือว่าให้ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเพียงค่ 3 คนเท่านั้น ขณะเดียวกันฟอร์มการเล่นก็มีพัฒนาการขึ้นมาอย่างเห็นได้เด่นชัด และสามารถที่จะต่อกรได้กับทุกทีมบนโลกนี้อย่างไม่เกรงขามแม้แต่อย่างใดเลย
สำหรับผลงานอันสุดติ่งกระดิ่งโดราเอม่อนสด ๆ ร้อน ๆ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั่นก็คงการที่พลาดโอกาสคว้าแชมป์ยูโร 2020 ไปครองให้ได้เป็นประวัติศาสตร์หน้าแรกของวงการลูกหนังอังกฤษ โดยในนัดชิงชนะเลิศนั้นอุตส่าห์ได้จัดขึ้นที่เวมบลี่ย์ แต่สุดท้ายฟัดกันไปฟัดกันมาก็มาเสียท่าให้แก่ความเก๋าของอิตาลี เมื่อเล่นครบ 120 นาทียังคงเสมอ 1-1 ทำให้ต้องไปดวลจุดโทษตัดสินแชมป์ และก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่า 3 ตัวสังหารที่เซาธ์เกตเตรียมเอาไว้เฉพาะต่างพลาดกันรวดเลย ทำให้อังกฤษได้แค่รองแชมป์ และได้แค่เฝ้าคอยมองพลพรรคอัซซูรี่ฉลองจ้าวยุโรปสมัย 2
ขณะเดียวกันนั้นอีกหนึ่งโมเม้นท์ที่น่าจะจำนั้นก็คือการที่สามารถทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย นักเตะทุกคนต่างทุ่มเทกันอย่างสุดกำลังแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องจอดป้ายเอาไว้เพียงแค่รอบตัดเชือกเท่านั้นเอง ทำให้แฟนบอลสิงโตคำรามคงต้องรอแชมป์ระดับโลกหรือทวีปกันต่อไปไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด