ประธานพรีเมียร์ลีกลาออกแล้ว

                แกรี่ ฮอฟฟ์แมน ประธานศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้ลาออกจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีผลเมื่อสิ้นเดือนมกราคม 2565   สังเวยการเปิดไฟเขียวให้กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียเข้ามาเทคโอเวอร์นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                ก่อนหน้านี้ฮอฟฟ์แมนตกเป็นเป้าความเดือดดานของหลากหลายเจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีกรุมจวกแหลก  หลังจากที่ไปเปิดไฟเขียวให้พับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (พีไอเอฟ) กลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย ที่ก้าวเข้ามาฮุบนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด  ทั้งที่หัวเหลือใหญ่ของกลุ่มดังกล่าวมีแต่ข่าวทางด้านลบออกมาอย่างต่อเนื่อง

                สำหรับโต้โผใหญ่ของกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้นั่นก็คือโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มงกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบีย โดยพระองค์ทรงมีภาพลักษณ์ต่อสาธารณชนไปค่อนข้างในด้านลบ  ไม่ว่าจะเป็นการระเมิดสิทธิมนุษยชน  รวมไปถึงการสนันสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาภายในซาอุดิอาระเบียอีกด้วย

                จากเหตุผลดังกล่าวนำมาสู่การที่ทั้งข่าวและสื่อมวลชนต่างพากันรุมจัดหนักจัดใหญ่ให้เป็นข่าวหน้าหนึ่งจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา  แต่ก็มีข่าวว่าฮอฟฟ์แมนจะก้าวลงจากตำแหน่งในไม่ช้านี้

                แม้ฮอฟฟ์แมนจะลาออกจากตำแหน่งบิ๊กบอสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมปริปากว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการเทคโอเวอร์นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดหรือใหม่แต่อย่างใดเลย

                ปัจจุบันนี้มีหลายต่อหลายสโมสรที่เจ้าของเปลี่ยนมือกลายเป็นชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนั้นมันก็เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน  หากเราเลือกมองแต่ทางด้านดีคิดบวกเอาไว้ก็ไม่จำเป็นต้องไปเคืองแม้แต่น้อย

                ชั่วโมงนี้สโมสรกีฬาทั้งหลายกลายเป็นแหล่งลงทุนของนักธุรกิจสมัยใหม่  โดยหากแลกมาด้วยกำลังทรัพย์ของตนเองย่อมเป็นผลอย่างดีมากเลยทีเดี่ยว  ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นอย่างง่ายดายจากการที่ “กลุ่มทุนคิง เพาเวอร์” ของไทยเข้ารับบริหารพลิกทีมจ้องจอกสยามต่างไปจากเดิมราวฟ้ากับดิน  หลังฟันแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร  รวมทั้งยังฟาดแชมป์เอฟเอ คัพที่รอคอยมานานเกือบ 100 ปีเลยทีเดียว

                ทางด้านโรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซี ก็เป็นอีกตังอย่างหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน  มหาเศรษฐีนับได้ว่าเป็นนักธุรกิจรุ่นบุกเบิกที่ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของเชลซี  และพร้อมที่จะให้เม็ดเงินสนับสนุนในการเสริมทัพมาอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ตอนนี้สามารถต่อกรกับแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไอ้อย่างสบาย ๆ

                ขณะเดียวกันนั้นหากได้มาจากการไปกู้หนี้ยืมสินชาวบ้านก็คงมีแต่เรื่องเดือดร้อนตามมาไม่หยุดไม่หย่อน  และที่เห็นเป็นบทเรียนกันอย่างชัดเจนนั่นก็คือเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้  ทำให้สุดท้ายไปไม่ไหวต้องขายต่อหงส์แดงจนสามารถกลับมาผงาดประกาศความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง