คล็อปป์สุดติ่งโค่นสถิติมูรินโญ่

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมคนเก่งของลิเวอร์พูล จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้สำเร็จ หลังจากโค่นสถิติกุนซือที่คว้าชัยในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีได้มากที่สุดหลังคุมทัพไปแล้ว 250 เกมของโชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือมือเทพของเชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงไปได้อย่างราบคาบ
คล็อปป์นำลิเวอร์พูลลงทำศึกพรีเมียร์ลีกเกมที่ 250 ของตนเองด้วยการเปิดแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของทีมในโซนหนีตายอย่างวัตฟอร์ด ก่อนที่หงส์แดงจะคว้าชัยไปตามระเบียบด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2022 ทำให้นายใหญ่จากเมืองเบียร์ทำสถิติเก็บชัยเป็นนัดที่ 160 ทุบสถิติเดิมที่มูรินโญ่เคยฝากผลงานเอาไว้ที่ 158 เกม
สำหรับอันดับสามนั้นตกเป็นของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือระดับตำนานของแมนฯยูฯ ที่กวาดชัยไปได้ 152 นัด ขณะที่อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือมือเทพของอาร์เซน่อล เข้าป้ายมาในลำดับที่ 4 จากการนำไอ้ปืนใหญ่โกยชัยไป 146 เกม
นอกจากนี้อิลคาย กุนโดกันยังกลายเป็นพ่อค้าแข้งชาวเยอรมันที่ซัลโวในพรีเมียร์ลีกได้มากที่สุด หลังจากกดไปหนึ่งเม็ดช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้บุกไปไล่ทุบเบิร์นลี่ย์ไปชิล ๆ 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2022 ทำให้กดไปแล้วเบ็ดเสร็จ 34 เม็ด แซงหน้าเมซุต โอซิล อดีตสตาร์ทีมชาติเยอรมันและอาร์เซน่อล ที่กระทุ้งเอาไว้ 33 ตุง
ทางด้านบาเยิร์น มิวนิค เจ้าพ่อบุนเดสลีกาเยอรมัน มีสิทธิ์โดนสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) ลงดาบโทษฐานสร้างความสับสนในการเปลี่ยนตัวสำรอง ทำให้มีแข้งเสือใต้อยู่ในสนาม 12 คน ในเกมลีกนัดล่าสุดที่บุกไปเอาชนะไฟร์บวร์กได้อย่างขาดลอย 4-1 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2022
เหตุการณ์ดราม่าดังกล่าวเกิดขึ้นในนาทีที่ 85 ขณะที่บาเยิร์น มิวนิคนำห่าง 3-1 และมีการเปลี่ยนตัวสำรองลงไปในสนามพร้อมกันสองราย แต่ดันมีเพียงแค่แข้งรายเดียวที่เดินออกจากสนาม ซึ่งกุนซือของพี่เสือเปลี่ยนเอาสองดาวเตะชาวฝรั่งเศสอย่างคิงส์ลี่ย์ โกมัน และโกร็องแต็ง โตลิสโซ่ออกจากสนามพร้อมกัน
แต่หลังจากเกมดำเนินไปได้เพียงแค่ 17 วินาทีก็มีสัญญาแจ้งเตือนมาจากทางห้องวีเออาร์มายังผู้ตัดสิน ทำให้เกมต้องชะงักไปราว 10 นาทีกับความอลหม่านในครั้งนี้ ก่อนที่จะเล่นกันต่อไปจนจบเกม
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอาจส่งผลให้ทางเดเอฟเบลงดาบบาเยิร์น มิวนิคทางใดทางหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการริบชัยชนะในเกมดังกล่าว หรือว่าอาจตัดแต้มทีมเสือใต้ ตามรายงานของสื่อชื่อดังของเมืองเบียร์อย่าง “บิลด์”