ลาซิโองานเข้าอาจโดนปรับตกชั้นหลังโกงผลโควิด

ลาซิโองานเข้าชุดใหญ่อาจเคราะห์ร้ายถึงขั้นโดนปรับตกชั้นจากเวทีกัลโช่ เซเรีย อาอิตาเลยทีเดียว หลังจากตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่า ลาซิโอโกงผลการตรวจโควิด จากการกระพือข่าวของสื่อกีฬาชั้นนำระดับโลกอย่าง “อีเอสพีเอ็น”
สำหรับเคสนี้มันต้องย้อนหลังกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยทางลาซิโอได้ส่งผลการตรวจหาเชื้อไวรัสมรณะโควิดจากสนามซ้อมของตนเองว่าทุกคนมีผลการตรวจเป็นปกติ ทั้ง ๆ ที่มีพ่อค้าแข้งรายหนึ่งมีผลการตรวจหาโควิดเป็นบวก แต่ว่าทางอินทรีฟ้าขาวแห่งกรุงโรมกลับไม่ได้แจ้งตามความเป็นจริง ทำให้นักเตะรายนั้นไม่ได้เข้ารับการกักตัวตามมาตรการความปลอดภัยเป็นเวลา 10 วัน รวมทั้งยังได้ลอยหน้าลอยตาลงเล่นในลีกสูงสุดของแดนมะกะโรนีอีกต่างหาก
นอกจากนี้ทางประธานสโมสรลาซิโออย่างเคลาดิโอ โลติโต้ รวมไปถึงแพทย์ประจำทีมอีกสองรายอย่างฟาบิโอ โรเดียและอิโว ปูลซินี่ต่างก็ติดล่างแหในครั้งนี้จากการโดนอัยการกล่าวหาว่าไม่ยอมรายงานผลการตรวจตามความเป็นจริงต่อทางหน่วยงานสาธารณสุข และตอนนี้เรื่องดังกล่าวทางฝั่งสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (เอฟไอจีซี) ก็ได้จัดแจงชงเรื่องให้ศาลไปเป็นผู้จัดการตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หากผลการตัดสินออกมาปรากฏว่าลาซิโอผิดจริงก็จะโดนลงโทษตั้งแต่การตัดแต้มไปจนถึงขั้นสูงสุดปรับให้ตกชั้นไปเริ่มต้นใหม่ในเซเรีย บีเลยทีเดียว แต่การถูกปรับตกชั้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการลูกหนังแดนมะกะโรนีแต่อย่างใด หลังจากล่าสุดมีผลตัดสินจากคดีสุดฉาวออกมาปรากฏว่าขนาดทีมขาใหญ่อย่างยูเวนตุสยังถูกปรับตกชั้นไปเล่นในเซเรีย บีมาแล้วเมื่อปี 2016 จากกรณีที่มีส่วนพัวพันกับการล็อกผลการแข่งขันครั้งใหญ่นั่นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้นลาซิโอก็เคยโดนปรับตกชั้นจากเซเรีย อามาแล้วเมื่อปี 1980 ที่ต้องกอดคอเอซี มิลานลงไปเล่นในเซเรีย บีจากคดีล็อกผลการแข่งขันเช่นกัน
ฤดูกาลนี้ลาซิโอมีผลงานในลีกดีไม่น้อยเลยทีเดียว โดยตอนนี้รั้งอันดับ 7 มี 40 คะแนนจาก 22 นัด และมีลุ้นจบซีซั่นด้วยการติดท็อปโฟร์พร้อมตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้า หลังจากที่มีคะแนนตามหลังทีมอันดับ 3 อย่างโรม่าเพียงแค่ 3 แต้มเท่านั้นเอง ส่วนการลุ้นสคูเด็ดโต้ในปีนี้คงต้องเปิดทางให้สองยักษ์ใหญ่จากเมืองมิลานห้ำหั่นกันเอง ซึ่งตอนนี้อินเตอร์รั้งจ่าฝูงที่ 50 คะแนนจาก 22 นัดนำหน้าคู่กัดร่วมเมืองอย่างเอซี มิลานเพียงแค่แต้มเดียว