เจอร์เก้น คล็อปป์กลับมาสร้างรอยยิ้มให้แฟนลิเวอร์พูลได้อีกครั้ง หลังจากนำทัพหงส์แดงบุกไปกุมความได้เปรียบเหนือทีมแกร่งแห่งบุนเดสลีกาเยอรมันอย่างแอร์เบ ไลป์ซิกเอาไว้ได้สำเร็จ ลิเวอร์พูล 2-0 ไลป์ซิก ขณะที่บาร์เซโลน่าฟอร์มสะดุดหลุดโลกพ่ายให้ตัวพ่อในลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมงไปด้วยสกอร์มโหฬารคาคัมป์นู 1-4 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกเมื่อคืนวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564
ไลป์ซิกต้องเสียความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าบ้านในนัดแรกเนื่องจากทางรัฐบาลเยอรมันออกกฎเหล็กไม่ให้เที่ยวบินที่มาจากสหราชอาณาจักรลงจอดที่เมืองเบียร์ยาว ๆ ไปจนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้ต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลย และจำใจต้องไปดวลแข้งกันที่สังเวียนเป็นกลางอย่างปุสกัส อารีน่าในกรุงบูดาเปสต์ของฮังการี
เกมนี้ทั้งสองฝ่ายต่างสู้กันได้อย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุก แต่สุดท้ายไลป์ซิกก็มาตกม้าตายจากความผิดพลาดในแนวรับของตนเองจนส่งผลให้เสียสองประตูรวดแบบง่าย ๆ ด้วยการปล่อยให้โมฮาเหม็ด ซาลาห์และซาดิโอ มาเน่หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้าไม่เหลือซากในนาทีที่ 53 และ 58 ตามลำดับ
ชัยชนะในเกมนี้เรียกความมั่นใจพร้อมเรียกความศรัทธาจากแฟนลิเวอร์พูลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งการคว้าแชมป์รายการนี้อีกสมัยนับเป็นกุญแจอีกหนึ่งดอกที่จะไขไปสู่ตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าฐานะแชมป์เก่า หลังจากสถานการณ์ลุ้นท็อปโฟร์ของหงส์แดงชั่วโมงนี้ไม่ค่อยจะสู้ดีเอาเสียเลย
แม้ว่าลีโอเนล เมสซี่จะรับหน้าที่สังหารจุดโทษให้บาร์เซโลน่าขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่27 แต่อีกเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้สกอร์ก็กลับมาเท่ากันที่ 1-1 เมื่อคีลียัน เอ็มปั๊ปเบ้ซัลโวทวงคืนให้เปแอสเชอย่างทันควัน
ครึ่งหลังลูกทีมของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่มาได้สองลูกรวดในช่วงเวลาเพียงแค่ 5 นาทีทำให้หนีห่างออกไปเป็น 3-1 จากการซัลโวของมอยเซ่ คีนและการเหมาลูกที่สองในเกมนี้ของเอ็มปั๊ปเป้ในนาทีที่ 65 และ 70 ตามลำดับ
ช่วงเวลาที่เหลือของเกมบาร์ซ่าพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่เป็นระลอกแต่ก็ไม่ได้ผล และสุดท้ายกลับกลายต้องมาเสียเพิ่มอีกเม็ดให้จากการตะบันแฮตทริกของเอ็มปั๊ปเป็ในเกมนี้นาทีที่ 85 จากความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยในเกมนี้ทำให้ลูกทีมของโรนัลด์ คูมันนั้นดูเหมือนว่าแทบจบเส้นทางในการลุ้น “ถ้วยบิ๊กเอียร์” ไปเลยก็ว่าได้ เนื่องจากนัดสองต้องบุกไปไล่ต้อนเปแอสเชให้ได้อย่างน้อย 5-0 จึงจะพลิกนรกกลับมาเข้ารอบไปได้
