หงส์แดงตั้งค่าตัวเนโกไม่ต่ำกว่า10ล้านปอนด์

ลิเวอร์พูลตกเป็นข่าวว่าได้ตั้งค่าตัวของ เนโก วิลเลี่ยมส์ ดาวเตะทีมชาติเวลส์ เอาไว้ที่อย่างน้อย 10 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกอยู่ที่ราว 400 ล้านบาท โดยมีทีมร่วมพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างเบิร์นลี่ย์, เซาแธมป์ตัน และลีดส์ ยูไนเต็ดพร้อมเซ้งไปใช้งาน จากการรายงานของสื่อชั้นนำในเมืองผู้ดีอย่าง “ดิ แอธเลติก”
แม้ว่าวิลเลี่ยมส์จะติดทีมชาติเวลส์ไปลุยศึกยูโร 2020 อยู่ในตอนนี้ แต่สำหรับระดับสโมสรแบ็กขวดาวรุ่งวัย 20 ปียังไม่สามารถสอดแทรกตำแหน่งตัวจริงของลิเวอร์พูลได้สำเร็จ หลังจากเพิ่งมีโอกาสได้ลงเล่นในลีกรวมกันไป 12 นัดจาก 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยตกเป็นเพียงแค่อะไหล่ของดาวเตะทีมชาติอังกฤษอย่างเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์เท่านั้นเอง
ล่าสุดวิลเลี่ยมตกเป็นข่าวการย้ายออกจากแอนฟิลด์อย่างหนัก เนื่องจากดาวเตะมังกรแดงต้องการโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง และด้วยฝีเท้าและราคาที่ทางหงส์แดงตั้งเอาไว้ที่สามารถจับต้องได้ ทำให้น่าจะได้เห็นการย้ายสังกัดใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้
ขณะที่ซาดิโอ มาเน่ สตาร์ทีมชาติแคเมอรูน ยังคงมีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และไม่รีบบ้านเกิดแต่อย่างใด โดยล่าสุดแนวรุกของลิเวอร์พูลได้จัดแจงบริจาคเงินเป็นจำนวนร่วม 20 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงพยาบาลให้หลายหมู่บ้านได้เข้าถึงโอกาสในการรักษาพร้อมเปิดใช้งานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มาเน่พยายามช่วยเหลือบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังคอยจุนเจือในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ทางบ้านเกิดขาดแคลน หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งจะควักกระเป๋าราว 200,000 ปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 8.8 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงเรียนให้กับทางหมู่บ้าน
สำหรับการบริจาคสร้างโรงพยาบาลในครั้งนี้นั้นมันเกิดมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ฝังใจของมาเน่ เนื่องจากทางหมู่บ้านของเขาขาดโรงพยาบาลจนเป็นเหตุก่อให้เกิดเรื่องราวสุดเศร้าจากการเสียคุณพ่อไปในคราวนั้น และโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นมาแห่งนี้สามารถรองรับการเข้ารักษาของผู้คนได้มากถึงกว่า 34 หมู่บ้านด้วยกันเลยทีเดียว
ทางด้านสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เหยียบเบรกตัวโก่งเลยทีเดียว โดยปฏิเสธไม่ให้สังเวียนแข้งในนครมิวนิคของเยอรมันเปลี่ยนไฟสนามอัลลิอันซ์ อารีน่าเป็นสีรุ้งในเกมยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของกลุ่มเอฟที่เยอรมันจะปะทะกับฮังการีในวันที่ 23 มิถุนายน 2564 เนื่องจากแฝงนัยยะออกไปทางการเมือง
สำหรับการปรับไฟสนามให้เป็นสีรุ้งนั้นมันเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนกลุ่มแอลจีบีทีคิว หลังจากทางรัฐบาลฮังการีได้ออกกฏหมายกีดกันกลุ่มรักร่วมเพศและบุคคลข้ามเพศเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีกฎเหล็กห้ามเผยแพร่เนื้อหาที่เข้าข่ายส่งเสริมเยาวชนให้มีแนวคิดรักร่วมเพศในโรงเรียนที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี