หงส์แดงเตรียมจับคล็อปป์ต่อสัญญายาว

ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอังกฤษ พร้อมเกลี้ยกล่อมเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือมือเทพชาวเยอรมัน ให้อยู่กุมบังเหียนหงส์แดงต่อไปยาว ๆ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เคยยืนกรานอย่างหนักแน่นไปแล้วว่าจะอำลาถิ่นแอนฟิลด์หลังหมดสัญญาในปี 2024 แต่จากการเข้ามาของขงเบ้งแห่งเมืองเบียร์ทำให้เหล่าสาวกเดอะค็อปได้หน้าชื่นตาบานจากการกลับมาประกาศความยิ่งใหญ่ในโลกลูกหนังอีกครั้ง รวมทั้งฤดูกาลนี้ยังมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกวาดทั้งหมด 4 แชมป์อีกด้วย
คล็อปป์เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลเมื่อปี 2015 และพัฒนาหงส์แดงขึ้นมาเรื่อย ๆ จนนาทีนี้เป็นหนึ่งในโคตรทีมระดับแถวหน้าของโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากฟาดแชมป์เป็นว่าเล่นไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีกอังกฤษ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก
นอกจากนี้ซีซั่นนี้คล็อปป์ยังนำลิเวอร์พูลคั่ว 4 แชมป์ภายในฤดูกาลเดียว และหากทำได้ก็จะเป็นการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับหงส์แดงเลยทีเดียว โดยตอนนี้มีแชมป์ติดมือไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งรายการนั่นก็คือคาราบาว คัพ และตบเท้าเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกเอฟเอ คัพด้วยการเข้าไปดวลกับเชลซีเป็นด่านสุดท้ายที่เวมบลี่ย์ ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2022 ก็เพิ่งจะนำหงส์แดงกำชัยเหนือแชมป์ยูโรปา ลีกเมื่อซีซั่นที่แล้วจากสเปนอย่างบียาร์เรอัล ไปได้ในการเปิดแอนฟิลด์ตบไปนิ่ม ๆ 2-0 ในรอบรองชนะเลิศนัดแรกของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ทางด้านศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็กำลังไล่บี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้สุดมันตามหลังเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ทำให้โอกาสที่จะกวาด 4 แชมป์ในซีซั่นเดียวนั้นมันไม่ได้ไกลเกินเอื้อมแต่อย่างใดเลย โดยลิเวอร์พูลหวังจะให้คล็อปป์ขยายสัญญาออกไปอีกเป็นเวลา 4 ปี
ขณะเดียวกันนั้นสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ฟีฟ่า) มีไอเดียบรรเจิดออกมาอีกแล้ว โดยคราวนี้จะมาปรับรูปโฉมของการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบรองชนะเลิศจากที่เล่นกันสองนัดเหย้า-เยือน จะให้หวดกันนัดเดี้ยงรู้ดำรู้แดงกันไปเลยในสนามเป็นกลาง รวมทั้งยังจะจัดนัดชิงชนะเลิศภายในสัปดาห์เดียวกันหลังจบรอบตัดเชือกอีกด้วย ซึ่งหากได้รับไฟเขียวก็จะเริ่มต้นกันในฤดูกาล 2024 – 2025
นอกจากนี้ยังเชื่อเหลือเกินว่าทางด้านยูฟ่าจะปรับเปลี่ยนไม่ให้มีการแข่งขันกันในรอบแบบกลุ่มเหมือนเช่นเคยอีกแล้ว แต่จะปรับโฉมมาฟาดแข้งกันในรูปแบบลีกที่มีทั้งหมด 32 ทีม และจะให้ทีมที่เข้าป้ายอันดับ 1-8 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปทันที ก่อนที่จะให้ไปลุ้นกันต่อด้วยการจำเอาทีมในอันดับ 9-16 มาฟาดแข้งกับอันดับ 17-24 มาประกบคู่ดวลกันแบบเหย้าและเยือนเพื่อหาอีก 8 ทีมเข้าไปในรอบ 16 ทีมสุดท้าย