ลิเวอร์พูล พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 17 ม.ค. 64
Anfield 23.30 น.
ผลงานล่าสุดของทั้งสองทีม:
ลิเวอร์พูล:
- ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-1 เกมเอฟเอ คัพนัดเยือน
- แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-1 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเยือน
- เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-0 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเยือน
- เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเหย้า
- ชนะ คริสตัล พาเลซ 7-0 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเยือน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด:
- ชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเยือน
- ชนะ วัตฟอร์ด 1-0 เกมเอฟเอ คัพนัดเหย้า
- แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเหย้า
- ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเหย้า
- ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเหย้า
ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด:
- 2020 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเหย้า
- 2019 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเยือน
- 2019 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเยือน
- 2018 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 เกมพรีเมียร์ลีกนัดเหย้า
- 2018 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 ทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องไอซีซีคัพ
ความพร้อมของทั้งสองทีม:
ลิเวอร์พูล:
เจอร์เก้น คล็อปป์ปวดหัวกับการจัดทัพในเกมนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในแนวรับที่โฌเอล มาติปน่าจะยังสลัดปัญหาบาดเจ็บฟิตไม่ทันช่วยทีม
ทำให้อาจต้องส่งปราการหลังดาวรุ่งอย่างรีธ วิลเลี่ยมส์หรือเลือกถอยเอามิดฟิลด์กัปตันทีมอย่างจอร์แดน เฮนเดอร์สันลงมาจับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นร่วมกับดาวเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติบราซิลอย่างฟาบินโญ่ รวมทั้งยังต้องภาวนาให้มหาเทพเอสเอ็มเอฟองค์ลงพร้อมกันถ้วนหน้าเป็นเครื่องจักรล่าตาข่ายไม่ว่าจะเป็นซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด:
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อย่างใด เมื่อปีศาจแดงพร้อมยกทัพชุดใหญ่บุกเยือนแอนฟิลด์โดยมี “เดอะแบก” อย่างบรูโน่ แฟร์นันด์สเป็นหัวใจของทีมเหมือนเช่นเคย
ขณะที่ปอล ป๊อกบาที่คืนฟอร์มเทพเมื่อเกมล่าสุดน่าจะได้สตาร์ทเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับมาร์คัส แรชฟอร์ดที่จะเป็นตัวป่วนแนวรับหงส์แดงจนหัวหมุน
ฟันธงลงสกอร์:
นับได้ว่าเป็นมวยถูกคู่เลยสำหรับศึกแดงเดือดแมตช์นี้ เมื่อจะเป็นการโคจรมาพบกันระหว่างทีมที่มีเกมเหย้าสุดแข็งแกร่งดังภูผาไร้พ่ายปาเข้าไป 3 ปีกว่าอย่างลิเวอร์พูล
โดยมีบททดสอบสุดหินอย่างแมนฯยูฯที่ฤดูกาลนี้ฟอร์มเกมเยือนโหดจัดปลัดบอกจากการกวาดชัยไปแทบเต็มร้อยจะพลาดก็เพียงแค่เสมอเลสเตอร์ ซิตี้ไปเท่านั้นเอง แม้ว่าผลงานช่วงนี้ของหงส์แดงจะสวนทางกับผีแดงอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่แชมป์เก่าทำแต้มหกเรี่ยราดจนพลาดปล่อยให้เร้ดอาร์มี่แซงขึ้นนำจ่าฝูง ทำให้เกมนี้จำเป็นต้องคว้าชัยให้ได้สถานเดียวเพื่อเป็นการเรียกความมั่นใจพร้อมทั้งหวนคืนขึ้นสู่บัลลังก์จ่าฝูงอย่างทันควัน
ดังนั้นยังคงมั่นใจว่ามนต์ขลังของ “THIS IS ANFIELD” น่าจะมีดีพอให้เบียดคว้าชัยกลับคืนสู่เส้นทางป้องกันแชมป์อีกครั้งแม้อาจจะต้องทุ่มสุดกำลังถึงขั้นหืดจับก็ตาม
