เชลซีพลาดโอกาสที่จะทำแต้มแซงเวสต์แฮม ยูไนเต็ดขึ้นไปรั้งที่ 4 ซึ่งเป็นโควตาสุดท้ายที่จะได้ไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้า หลังจากทำได้เพียงแค่เสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปแบบไร้สกอร์ในเกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ทำให้ผลการแข่งขัน แมนยู 0-0 เชลซี ทั้งนัดเหย้าและนัดเยือนเป็นครั้งแรกในรอบ 99 ปีเลยทีเดียว
แม้ว่าทั้งคู่ต่างหวังคว้าชัยในเกมนี้เพื่อจุดหมายที่ต่างกัน และต่างก็จัดหนักจัดเต็มส่งชุดที่ดีที่สุดลงโม่แข้ง แม้ว่าเชลซีอาจจะครองเกมได้เหนือกว่าในครึ่งแรก แต่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาก็แก้เกมให้แมนฯยูฯกลับมาเล่นได้อย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสนุกเร้าใจ แต่สุดท้ายไม่มีประตูเกิดขึ้นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเหตุการณ์สำคัญในแมตช์นี้คงเป็นจังหวะที่เชลซีหวิดเสียจุดโทษจากบอลที่ไปถูกแขนของคัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอยในเขตโทษ แต่สจ๊วร์ต แอตเวลล์ ซึ่งทำหน้าที่ตัดสินใจเกมนี้ เช็กภาพจากวีเออาร์แล้วไม่เป่าเป็นจุดโทษ
ผลเสมอในเกมนี้นับว่าสร้างความเสียหายให้ทั้งคู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเชลซียังคงอยู่ที่ 5 มี 44 คะแนนจาก 26 นัดตามหลังเวสต์แฮม ยูไนเต็ดเพียงแต้มเดียว ขณะที่แมนฯยูฯแทบจะหมดลุ้นแชมป์ไปแล้วเมื่อได้เพิ่มเป็น 50 คะแนน จาก 26 นัดโดนคู่กัดร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ทิ้งไปไกลไม่เห็นฝุ่นถึง 12 แต้มเข้าไปแล้ว แต่แต้มเดียวในเกมนี้ทำให้สิงห์บลูยังคงยืดสถิติไร้พ่ายภายใต้การกุมบังเหียนของโทมัส ทูเคิ่ล รวมทั้งยังไม่เสียประตูในบ้านยุคนายใหญ่ชาวเยอรมันอีกต่างหาก
สำหรับผลการแข่งขันของทั้งคู่ที่ออกเสมอ 0-0 ทั้งไปและกลับในฤดูกาลเดียวกันนั้นมันต้องย้อนไปถึงเมื่อซีซั่น 1921 – 1922 โน่นเลยทีเดียว ซึ่งในสมัยนั้นยังใช้ชื่อ “ดิวิชั่น 1” และมีรูปแบบการแข่งขันที่จะจัดให้ดวลกันสองเกมติดไปเลย โดยฤดูกาลนั้นนัดแรกเชลซีเปิดบ้านกินแมนฯยูฯไม่ลงเจ๊ากันไปแบบจืดชืดในวันที่ 10 กันยายน 1921
ก่อนที่หลังจากนั้นอีกเพียงแค่ 7 วันปีศาจแดงกลับไปเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของสิงโตน้ำเงินครามและก็แบ่งแต้มกันไปแบบไร้สกอร์ และในซีซั่นนั้นมันเป็นฝันร้ายของแฟนปีศาจแดงเมื่อทีมรักต้องจบฤดูกาลด้วยการรั้งท้ายตารางพร้อมกับตกลงไปเล่นในดิวิชั่น 2 ขณะที่สิงห์บลูเข้าป้ายในอันดับ 9 ของตารางคะแนนดิวิชั่น 1
