เจ้ากรมข่าวลือประจำอังกฤษอย่าง “เดอะ ซัน” ตีข่าวว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้กลับลำเปลี่ยนเป้าหมายจากเจดอน ซานโซ่หันมาไล่ล่า เปรโด เนโต้ ปีกทีมชาติโปรตุเกสของทีมร่วมพรีเมียร์ลีกอย่างวูล์ฟแฮมป์ตัน แทน เนื่องจากสู้ค่าตัวของซานโซ่ที่ทีมดังในบุนเดสลีกาเยอรมันอย่างดอร์ทมุนด์ตั้งเอาไว้แพงเวอร์
แม้ว่าแมนฯยูฯจะตกเป็นข่าวพัวพันกับซานโซ่มาอย่างต่อเนื่อง แต่จากฟอร์มการเล่นของดาวเตะทีมชาติอังกฤษทำให้ดอร์ทมุนด์ปั่นค่าตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้ทะลุ 100 ล้านปอนด์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ปีศาจแดงไม่พร้อมที่จะจ่ายค่าตัวจำนวนมหาศาลแบบโดนโก่งราคาได้อย่างสนิทใจ
เนโต้เกือบจะได้เป็นนักเตะของแมนฯยูฯไปแล้ว เนื่องจากเมื่อปี 2016 ดาวเตะแดนฝอยทองได้มาทดสอบฝีเท้ากับทีมปีศาจแดงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ผลกลับออกมาว่าฟอร์มไม่สะดุดตา ก่อนที่วูล์ฟแฮมป์ตันจะเห็นแววว่าเนโตนั้นมันเป็นเพชรเม็ดงามชัด ๆ จึงได้จัดเงินจำนวน 16 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 984 ล้านบาท คว้าตัวมาจากทีมดังในกัลโช่ เซเรีย อาอิตาลีเมื่อปี 2019 และก็พัฒนาฝีเท้าจนก้าวมาอยู่ในระดับแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกแล้วตอนนี้
แต่งานนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแมนฯยูฯที่จะคว้าตัวเนโต้ไปเสริมทัพ แม้ตามข่าวจะระบุว่าปีศาจแดงพร้อมทุ่มเงินก้อนโตถึง 50 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2,140 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่ก็ต้องช่วงชิงกับคู่กัดร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ให้ความสนใจในตัวของพ่อค้าแข้งวูล์ฟแฮมป์ตันรายนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ดีแฟนผีแดงคงต่างพากันโล่งใจไปไม่น้อยเมื่อล่าสุดมีข่าวออกมาว่าแมนฯซิตี้ได้เบนเข็มไปที่สตาร์ของแอสตัน วิลล่าอย่างแจ็ค กรีลิชที่ตอนนี้ฟอร์มกำลังหุงขึ้นหม้อสุด ๆ จนกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมสิงห์ผงาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับวูล์ฟแฮมป์ตันนั้นซีซั่นนี้ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากตอนนี้รั้งที่ 13 มี 35 คะแนนจาก 29 นัด แม้ว่าอาจจะไม่ต้องหนีตายจากการตกชั้นก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้วนั้นมันต่างกันราวฟ้ากับดินเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาวูล์ฟแฮมป์ตันสามารถคว้าตั๋วไปลุยศึกฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็กอย่างยูโรป้า ลีก แต่ในทางกลับกันนั้นฤดูกาลนี้ผลงานไม่คงเส้นคงวาเหมือนอย่างที่เคยแถมยังหนักออกไปทางแพ้และเสมออีกต่างหากด้วย
