งานนี้แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั่วโลกคงยิ้มกันหน้าบานอย่างแน่นอน หลังจากยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษออกมาประกาศยืนยันว่าได้บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุภาพบุรุษลูกหนังทีมชาติโปรตุเกสของทีมแกร่งแห่งกัลโช่ เซเรีย อาอิตาลีอย่างยูเวนตุน กลับคืนสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดอีกครั้ง
อนาคตการค้าแข้งของโรนัลโด้กับยูเวนตุสนั้นมันตกอยู่ภายใต้เครื่องหมายคำตอบมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก “ซีอาร์ 7” เหลือสัญญาค้าแข้งกับทีมตราม้าลายเพียงแค่อีกปีเดียวเท่านั้น และทางด้านยูเว่ก็ต้องการลดภาระค่าเหนื่อยอันหนักอึ้งที่ต้องแบกมาเป็นเวลานาน
แม้ว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่าโรนัลโด้อาจจะย้ายไปซบคู่อริร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแมนฯยูฯที่สมหวังไปแบบแฮปปี้เอนดิ้ง โดยตอนนี้เหลือเพียงแค่ขั้นตอนการเจรจาสัญญาส่วนตัว, รอเข้ารับการตรวจร่างกาย และทำวีซ่าเพียงเท่านั้นเอง
โรนัลโด้นับว่าแจ้งเกิดกับแมนฯยูฯได้ไม่มีผิดเพี้ยน โดยกัปตันทีมชาติโปรตุเกสกดไปเบ็ดเสร็จ 118 เม็ดจากการลงเล่นให้ปีศาจแดงไปในระหว่างปี 2003 – 2009 ไปทั้งหมด 292 นัด รวมทั้งยังประสบความสำเร็จกับผีแดงอย่างมากมายไล่ไปตั้งแต่แชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย
หลังจากนั้นก็ไปสำลักความสำเร็จไปแบบจุก ๆ กับมหาอำนาจลูกหนังในลา ลีกาสเปนอย่างเรอัล มาดริด ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับยูเวนตุส และหวนกลับคืนสู่โรงละครแห่งความฝันอีกครั้งด้วยวัย 36 ปี
ขณะเดียวกันนั้นขาใหญ่ในลีกเอิงอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมงก็ไม่รีรอที่จะหาตัวตายตัวแทนของคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสที่จ่อย้ายซบเรอัล มาดริด ด้วยการเปิดฉากเจรจากับทีมตัวแทนของริชาร์ลิซอน หัวหอกทีมชาติบราซิลของเอฟเวอร์ตัน อย่างทันควัน ตามรายงานจากสื่อกีฬาของบราซิลอย่าง “อีเอสพีเอ็น”
แม้ว่าเปแอสเชจะไม่เต็มใจขายเอ็มบั๊ปเป้ แต่ก็สุดกำลังที่จะต้านทานความต้องการย้ายออกจากถิ่นปาร์ค เดส์ แพร็งส์ของเครื่องจักรสังหารตราไก่วัย 22 ปีได้แม้แต่น้อย รวมทั้งทางฝั่งเรอัล มาดริดเองก็มันใจเต็มร้อยว่าจะปิดดีลคว้าตัวเอ็มบั๊ปเป้ไปล่าตาข่ายได้ทันตลาดซื้อขายแข้งรอบแรกจะปิดตัวลงในสิ้นเดือนสิงหาคม 2564
ล่าสุดสื่อดังแซมบ้ายี่ห้อดังกล่าวได้ระบุว่าตอนนี้ทีมเอเยนต์ของแข้งแดนกาแฟวัย 24 ปีได้ทำการเจรจากับเปแอสเชอยู่ที่กรุงปารีสในฝรั่งเศส และทางเอฟเวอร์ตันก็รู้ตัวดีว่ามีโอกาสที่จะเสียดาวยิงตัวเก่งสูงเลยทีเดียว
