ก่อนหน้านี้แทบจะเรียกกันได้เลยว่า “นอนมา” สำหรับการที่ ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานแข้งทีมชาติฝรั่งเศส จะเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคนใหม่แทนที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งทำเอาปีศาจแดงป่นปี้ไม่มีชิ้นดีกับการกุมบังเหียนมาร่วม 3 ปี แต่ว่าล่าสุดก็มีรายชื่อผู้ท้าชิงคนใหม่เข้ามานั่นก็คือจูเลน โลเปเตกี อดีตกุนซือทีมชาติสเปน นั่นเอง
สื่อชื่อระดับแถวหน้าของอังกฤษอย่าง “ดิ แอธเลติก” ออกมารายงานว่าโลเปเตกีกลายเป็นอีกหนึ่งคู่แข่งแย่งเก้าอี้กุนซือผีแดงร่วมกับซีดาน โดยจอมวางหมากขั้นเทพวัย 55 ปี ซึ่งตอนนี้คุมทีมแกร่งแห่งลา ลีกาสเปนอย่างเซบีย่า แทรกตัวเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนายใหม่แห่งค่ายโอลด์ แทรฟฟอร์ด
โลเปเตกีนั้นไม่ได้ไก่กาอาราเล่มาจากไหน แต่มีดีกรีถึงขั้นเคยกุมบังเหียนทีมชาติสเปนมาแล้ว รวมทั้งยังเคยคุมทีมเดียวกันกับซีดานอย่างเรอัล มาดริดมาแล้วเช่นกัน นอกไปจากนั้นเคยฟันแชมป์ยูโรป้า ลีกร่วมกับเซบีย่า นับตั้งแต่ที่เข้ามากุมบังเหียนเป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2019 – 2020
นับเป็นมวยถูกคู่เลยทีเดียว เนื่องจากกุนซือมือดีทั้งสองรายนี้ต่างมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและบารมีไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เบรนแดน ร็อดเจอร์สได้ออกตัวแล้วว่าจะกุมบังเหียนเลสเตอร์ ซิตี้ต่อไป แม้ว่าบรรดาร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษจะยกให้เต็งตีคู่มากับซีดาน แต่สุดท้ายอดีตกุนซือลิเวอร์พูลก็เลือกที่จะอยู่กับทีมจิ้งจอกสยามต่อไป
อย่างไรก็ดีงานนี้ไม่ว่าผู้ใดจะเข้ามารับ “เผือกร้อน” ก้อนนี้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดก็คงต้องต่างพากันไตร่ตรองให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะเชื่อว่าทางด้านแมนฯยูฯคงไม่มีงบให้เสริมทัพมากมายก่ายกองในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเปิดรอบสองเดือนมกราคม 2565 อย่างแน่นอน เนื่องจากโดนโซลชาผลาญเงินไปหลายร้อนล้านปอนด์ตลอดระยะเวลาร่วม 3 ปีที่ผ่านมา
นอกจากโซลชาจะ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” ช้อปปิ้งนักเตะเป็นว่าเล่นไม่ต่างจาก “สามล้อถูกหวย” บางรายซื้อมาแสนแพงแต่กลับจับนั่งสำรอง ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค มิดฟิลด์ดาวโรจน์ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เอาชื่อมาทิ้งไว้กับปีศาจแดง รวมทั้งยังมีเจดอน ซานโช่ที่กว่าจะได้ตัวมาเลือดตาแทบกระเด็น แต่สุดท้ายดันกลายเป็นแค่ตัวสำรองแข้งทองไปอีกราย
ทั้งนี้ทั้งนั้นแฟนแมนฯยูฯทั่วโลกคงได้แต่ฝันไกลไปว่าจะเหมือนเชลซีเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยโรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเจ้าของสิงห์บลู ตัดสินใจได้ถูกต้องที่ปลดแฟร้งค์ แลมพาร์ดกลางคัน แล้วจัดแจงดึงเอาโธมัส ทูเคิ่ลเข้ามาเสียบกุมบังเหียนสิงโตคำรามจนกลับมาผงาดก้าวไปฟาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อีกสมัย
