เกิทเซ่หวนคืนบุนเดสลีกาซบอินทรีแดงดำ

มาริโอ เกิทเซ่หวนคืนสู่เวทีบุนเดสลีกาเยอรมันอีกครั้ง หลังจากตัดสินใจย้ายจากทีมดังในพรีเมียร์ดัตช์อย่างพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นมาเล่นให้แชมป์ยูโรปา ลีกอย่างไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจรดปากกาเซ็นสัญญาค้าแข้งกับทีมอินทรีแดงดำแห่งเมืองเบียร์ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนปี 2025
แฟร้งค์เฟิร์ตดึงตัวเกิทเซ่กลับคืนสู่สังเวียนบุนเดสลีกาอีกครั้ง หลังจากจ่ายค่าฉีกสัญญาให้พีเอสวีไปเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านยูโร ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 148 ล้านบาทเท่านั้นเอง หลังจากอดีตดาวเตะทีมชาติเยอรมันวัย 30 ปีซัลโวไป 18 ลูกบวกกับอีก 18 แอสซีสต์จากการเล่นในสังเวียนแข้งแดนกังหันลมมาเป็นเวลา 2 ฤดูกาล
ทางด้านอาร์เซน่อลเสริมทัพรับศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022 – 2023 ด้วยการคว้าแข้งใหม่เข้าไปเสริมแกร่งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมเป็นรายที่ 3 เรียบร้อยแล้ว หลังจากเดอะ กันเนอร์สได้จัดแจงเปิดตัวฟาบิโอ วิเอร่า มิดฟิลด์ดาวโรจน์ชาวโปรตุเกสของปอร์โต้ พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 21 ให้สวมใส่ใช้ในการวาดลวดลายในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
สำหรับค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้นั้น อาร์เซน่อลต้องจ่ายให้แชมป์ลีกโปรตุเกสอย่างปอร์โต้เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1,314 ล้านบาท พร้อมบวกเข้ากับอีก 4 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 175 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับผลงานของแข้งอนาคตไกลจากแดนฝอยทองวัย 22 ปี
แม้ว่าวิเอร่าจะยังไม่เคยติดทีมชาติโปรตุเกสชุดใหญ่เลย แต่ก็การันตีความสุดยอดได้จากการคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของศึกยูโรชุดยู-21 เมื่อปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังพังไปได้ 6 ประตูบวกกับอีก 14 แอสซีสต์ในการช่วยให้ปอร์โต้ฟันดับเบิ้ลแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้วอีกด้วย
ขณะที่ยักษ์หลับในพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคงต้องกินแห้วไปแบบจุก ๆ กับการที่จะได้ตัวคริสเตียน เอริคเซ่น จอมทัพทีมชาติเดนมาร์ก ไปเสริมแนวรุก หลังจากสตาร์แดนโคนมวัย 30 ปียังคงแสดงจุดยืนอย่างมั่นคงว่าครอบครัวของตนนั้นยังต้องการใช้ชีวิตในกรุงลอนดอนต่อไป
จากการที่เอริคเซ่นขอปักหลักค้าแข้งในกรุงลอนดอนต่อไปนั้นมันทำให้ในตอนนี้เหลือเพียงสองตัวเลือกนั่นก็คือเล่นให้กับเบรนท์ฟอร์ดต่อไป หรือไม่ก็หวนคืนสู่อดีตต้นสังกัดอย่างสเปอร์ส โดยที่ทีมไก่เดือยทองยังไม่ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้พิจารณาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้ามนั้นเบรนท์ฟอร์ดพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางในการรั้งสตาร์แดนโคนมให้อยู่กับทีมต่อไปให้จงได้