เดอปายทลายสถิติดาวซัลโวอัศวินสีส้ม

แม้ผลงานได้ระดับสโมสรของเมมฟิส เดอปาย จะไปได้ฉายแววสดใสสักเท่าไหร่นัก แต่ล่าสุดก็สามารถผงาดจารึกชื่อตนเองเอาไว้ได้ในหน้าประวัติศาสตร์วงการลูกหนังฮอลแลนด์ โดยกลายเป็นเจ้าของตำนานดาวซัลโวของฮอลแลนด์ในรอบคัดเลือกได้มากที่สุด หลังจากเหมาคนเดียงสองเม็ดในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรปกลุ่มจี ช่วยให้ฮอลแลนด์บุกไปเสมอมอนเตเนโกร 2-2 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2564
เกมดังกล่าวฮอลแลนด์น่าจะเป็นฝ่ายปล้นชัยกลับออกได้ไม่ยาก หลังจากที่เดอปายซัลโวคนเดียวสองประตูทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลัง ก่อนที่ทางมอนเตเนโกรจะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความอัศจรรย์ด้วยการไล่บี้ตีเสมอ 2-2 จากการได้สองดอกรวดในช่วง 5 นาทีสุด ทำให้ต้องแบ่งแต้มกันไปแบบที่อัศวินสีส้มคงต้องเคาะกะโหลกตัวเอง
อย่างไรก็ดีจากแมตช์ดังกล่าวก็มีรางวัลปลอบใจให้เดอปาย โดยทำให้หัวหอกของบาร์เซโลน่า ทีมเศรษฐีตกอับในลา ลีกาสเปน ปาดหน้าเค้กบรรดาดาวยิงระดับตำนานด้วยการก้าวขึ้นไปนั่งบัลลังก์เบอร์ 1 ในการกระซวกตาข่ายในศึกฟตุบอลโลกได้มาที่สุดหลังทำไปได้เป็นประตูที่ 14 แซงหน้าทั้งรุด ฟาน นิสเตลรอย และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ครองสถิติร่วมกันที่ 13 ลูก โดยมีอาร์เยน ร็อบเบนตามมาห่าง ๆ ที่ 12 ประตูเท่ากับเดนนิส เบิร์กแค้มป์
นอกจากนี้ยังเป็นการพังประตูลูกที่ 37 จากการลงเล่นให้ฮอลแลนด์ไปแล้ว 73 เกม และทำให้ตอนนี้เดอปายรั้งอันดับ 4 ร่วมกับสตาร์รุ่นพี่อย่างอาร์เยน ร็อบเบน และตามหลังพาทริค ไคลเวิร์ตที่อยู่ในอันดับ 3 เพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้นเอง แต่ก็ยังคงห่างไกลจากเจ้าของสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของฮอลแลนด์อย่างฟาน เพอร์ซี่ที่กระทุ้งไปได้ทั้งหมด 50 ตุงจากการลงรับใช้ทีมอัศวินสีส้มไป 102 เกม
หนึ่งแต้มจากเกมดังกล่าวก็เพียงพอต่อการที่จะให้ฮอลแลนด์ยึดจ่าฝูงกลุ่มจี โดยมีเพิ่มเป็น 20 คะแนนจาก 9 นัดนำหน้ารองจ่าฝูงอย่างตุรกีห่าง 2 แต้ม หลังจากที่กลุ่มนี้ลงฟาดแข้งกันไปพร้อมกันครบ 10 เกมแล้ว
ขณะเดียวกันนั้นผลงานบนเส้นทางค้าแข้งของเดอปายกลับกลายเป็นลุ่ม ๆ ดอน ๆ โดยเริ่มจากการแจ้งเกิดในเวทีพรีเมียร์ดัตช์ที่บ้านเกิด ก่อนที่จะย้ายไปเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกอังกฤษกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความล้มเหลว และย้ายไปแจ้งเกิดใหม่ได้อีกครั้งในลีกเอิงฝรั่งเศสกับโอลิมปิก ลียง
ล่าสุดเดอปายย้ายมาเล่นในลา ลีกาให้บาร์เซโลน่าแบบไร้ค่าตัวหลังหมดสัญญากับโอลิมปิก ลียง แต่ก็คงต้องลุ้นกันเหนื่อยเป็นพิเศษเพราะว่าตอนนี้บาร์ซ่าก็ไม่ต่างจากทีมดา ด ๆ เมื่อไร้ลีโอเนส เมสซี่ มหาเทพลูกหนังทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่ย้ายไปซบทีมเจ้าบุญทุ่มแห่งลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมงต์แบบฟรี ๆ ทั้ง ๆ ที่ยอดลดค่าเหนื่อยเหลือครึ่งเดียวเท่านั้น แต่ทางด้านบาร์ซ่าก็ถังแตกซะจนไปมีปัญญาหามาจ่ายให้ได้