นีล เลนน่อน ยอมโยนผ้าขาวมอบแชมป์สกอตติชพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020 – 2021 ให้กับสตีเว่น เจอร์ราร์ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมกลาสโกว์ เซลติกอย่างหมดสภาพ หลังจากไม่สามารถปลุกทีมม้าลายเขียวขาวให้กลับมาหืออือต่อกรกับคู่อริร่วมเมืองตลอดกาลอย่างกลาสโกว์ เรนเจอร์สได้สำเร็จ เมื่อเกมลีกสูงสุดแดนวิสกี้นัดล่าสุดเสียท่าออกไปพ่ายทีมรองบ่อนอย่างรอสส์ เคาน์ตี้แบบล็อกถล่ม 0-1 ทำให้ตกเป็นฝ่ายตามหลังจ่าฝูงอย่างเรนเจอร์สสุดลูกหูลูกตาถึง 18 แต้มเลยทีเดียว
แม้ว่าก่อนหน้านี้เลนน่อนจะกัดฟันปากแข็งยืนกรานว่าจะไม่ลาออกและขอสู้กับเรนเจอร์สไปจนสุดซอย แต่จากความปราชัยในเกมล่าสุดทำให้เลนน่อนทรุดลงไปกองกับพื้นจนถึงขั้นต้องไขก๊อกทิ้งเก้าอี้ทันที หลังจากเข้ามากุมบังเหียนเซลติกเป็นรอบ 2 แทนที่เบรนแดน ร็อดเจอร์สที่ย้ายไปคุมทีมดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างเลสเตอร์ ซิตี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019
เลนน่อนพยายามพาเซลติกเดินหน้ากวาดชัยไล่บี้เรนเจอร์สมาตลอด แต่ลูกทีมของเจอร์ราร์ดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลงไปแม้แต่น้อย แถมยังมีโอกาสสูงไม่น้อยเลยทีเดียวที่จะฟันแชมป์สกอตติชพรีเมียร์ลีกไปด้วยสถิติไร้พ่ายได้อีกด้วย หลังจากตอนนี้เรนเจอร์สโกยไปแล้ว 82 คะแนนจาก 30 นัด ซึ่งกวาดชัยไปถึง 26 เสมอแค่ 4 แถมแนวรุกยังโหดโคตร ๆ ซัลโวไปแล้ว 73 ลูกประกอบกับแนวรับที่แข็งแกร่งดุจกำแพงเมืองจีนที่เสียไปเพียงแค่ 9 เม็ดเท่านั้นเอง ทำให้เรนเจอร์สมีลูกได้เสียเหนือเซลติกอย่างท่วมท้นถึง 23 เม็ดอีกต่างหาก
นอกจากเจอร์ราร์ดจะสามารถปลุกยักษ์หลับอย่างเรนเจอร์สกลับมาระเบิดฟอร์มเทพได้ในลีกฤดูกาลนี้แล้วนั้นทางด้านเส้นทางในเวทียุโรปก็ยังคงไปได้สวย โดยเรนเจอร์สมีโอกาสตบเท้าเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้ไม่ยากจากการที่บุกไปเบียดชนะทีมดังในลีกเบลเยี่ยมอย่างรอยัล อันท์เวิร์ปสุดมัน 4-3 ในรอบ 32 ทีมสุดท้ายนัดแรก และจะได้กลับมาเล่นเป็นเจ้าบ้านในยกสองคืนวันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564
ขณะที่เซลติกคงต้องก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้แก่เรนเจอร์สในซีซั่นนี้ แถมไม่มีอะไรให้ลุ้นในฟุตบอลยุโรปแล้ว รวมทั้งยังอาจจะต้องยอมรับชะตากรรมกลับไปสู่ยุคมือตกอยู่ภายใต้แสงทองอันเรืองรองของเรนเจอร์สในยุคของ “สตีวี่จี” ไปอีกนานไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ฟอร์มเมพขิง ๆ ครองตัวพ่อในลีกวิสกี้โดยเฉพาะยุคของร็อดเจอร์ส
