เปิดขุมทรัพย์โซลชารับจากปีศาจแดง

แม้ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะรับทรัพย์ไปเหนาะ ๆ เป็นจำนวนเงินก้อนโตถึง 7.5 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 330 ล้านบาทเลยทีเดียว หลังจากจำใจต้องรับไปเป็นค่าชดเชยจากการโดนปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ล่าสุดเว็บไซต์ข่าวสารวงการลูกหนังอย่าง “101เกร็ทโกลส์” ได้ล้วงแคะแกะเกาเอาลึกลงไปอีกว่ามหาขุมทรัพย์ที่โอเล่รับจากปีศาจแดงไปนั้นมันเท่าไหร่กันแน่
ก่อนหน้านี้โซลชาเอาตัวรอดจากการโดนเด้งตกเก้าอี้มาได้หลายต่อหลายครั้งอย่างเหลือเชื่อ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับโลกความเป็นจริงว่าไม่คู่ควรที่จะเป็นนายใหญ่แห่งค่ายโอลด์ แทรฟฟอร์ดอีกต่อไป หลังฟางเส้นสุดท้ายขาดลงจากการนำแมนฯยูฯออกไปพ่ายให้ทีมอ่อนชั้นกว่าอย่างวัตฟอร์ดแบบหมดสภาพ 1-4 ในเกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษนัดล่าสุด ทำให้มีผลงานสุดเอือมระอาจากการคว้าชัยไปได้เพียงแค่นัดเดียวจาก 7 เกมในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี
แม้สำหรับสัญญาการคุมทีมฉบับใหม่ของโซลชาที่เพิ่งจรดปากกาเซ็นสัญญาไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้เขาจะได้รับค่าเหนื่อยจากแมนฯยูฯต่อสัปดาห์มากถึง 200,000 ปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 8.80 ล้านบาท
แต่ล่าสุดเว็บไซต์ดังกล่าวลองขุดค้นค่าเหนื่อยของบรรดากุนซือในพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่โดนปลดออกจากตำแหน่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ได้รู้ลึกกันลงไปถึงว่าโซลชาฟันเงินก้อนใหญ่ไปจากแมนฯยูฯเบ็ดเสร็จแล้ว 26.33 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกอยู่ที่ประมาณ 1,158.52 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีหากเจาะลึกลงไปมากกว่านั้น โซลชารับทรัพย์ในการกุมบังเหียนแมนฯยูฯตกอยู่ที่เกมละราว 156,751 ปอนด์ และหากคิดเป็นการนำทีมคว้าชัยแต่ละนัดในลีกแล้วนั้นมันอยู่ที่ราวนัดละ 286,242 ปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยตกที่ราว 12.59 ล้านบาทเลยทีเดียว
ส่วนความคืบหน้าของทางด้านการควานหากุนซือขัดตาทัพตัวจริงของแมนฯยูฯนั้นก็ยังมีหลากหลายกระแสออกมาหนักไปทางคนโน้นคนนี้บ้าง แต่ล่าสุดได้ออกมาแทงกั๊กเมื่อถูกยิงคำถามว่าได้รับการทาบทางจากทางปีศาจแดงบ้างหรือไม่
ตอนนี้การ์เซียอยู่ในฐานะคนว่างงานเมื่อแยกทางจากทีมแกร่งแห่งลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างโอลิมปิกลียง แต่จอมวางหมากวัย 57 ปีก็เคยฝากผลงานสุดติ่งกระดิ่งโดราเอม่อนเอาไว้จากการที่เคยนำพลพรรคโอแอ็มโค่นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้พร้อมตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อปี 2020 รวมทั้งยังเคยนำลีลล์คว้าแชมป์ลีกเอิงได้เป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรรอบ 50 ปีเมื่อซีซั่น 2010 – 2011