บรรดาสโมสรและนักเตะใน พรีเมียร์ลีก วิกตกกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะโควิด1- ระลอกใหม่ที่มันยิ่งนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยพวกเขาได้นัดกันถกปัญหาดังกล่างร่วมกับฝ่ายจัดการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เพื่อที่จะหาทางออกการแก้ไขปัญหาโปรแกรมตกค้างมากมายอีกด้วย
สถานการณ์การกลับมาแพร่ระบาดของเจ้าไวรัสวายร้ายโควิด-19 กลับมาด้วยความหนักหนาสาหัสและแพร่ระบาดกันได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยระลอกนี้มีเจ้าตัวสายพันธ์ใหม่ที่มีนามว่า “โอมิครอน” แม้ว่าจะไม่มีอาการรุนแรงในผู้ป่วย แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่ามันตรวจหาเจอได้ยากมาก แต่กลับแพร่ระบาดได้อย่างง่ายดายกว่าเดิมมากหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษเมื่อนัดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น โดนเจ้าโควิดตามป่วนอย่างหนักจนทำให้ต้องประกาศยกเลิกการแข่งขันออกไปอย่างมากมายถึง 5 คู่ด้วยกันเลยทีเดียว รวมทั้งยังมีปัญหาที่เหล่านักเตะและเจ้าหน้าที่ของทีมต่างพากันติดไวรัสกันอย่างงอมแงม ทำให้บางทีมแทบไม่เหลือแข้งพอจัดตัวให้ลงทำการแข่งขันได้กันเลย
แม้ว่าบรรดาเจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีกต่างพากันวิตกกังวลในเรื่องนี้กันเป็นอย่างมาก และมีการร้องขอให้ทางพรีเมียร์ลีกควรที่จะงดการแข่งขันในโปรแกรมช่วงคริสต์มาสลากยาวไปถึงปีใหม่ ซึ่งเป็นที่รูก้จักกันว่าเป็นช่วง “บ๊อกซิ่งเดย์” ออกไปเพื่อความปลอดภัยของนักเตะและผู้ที่จะเข้ามาชมการแข่งขัน แต่ว่าสุดท้ายทางพรีเมียร์ก็ยังคงยืนกรานให้มีจัดการแข่งขันตามโปรแกรมที่วางเอาไว้ตามปกติ
จากปัญหาดังกล่าวสร้างความกังวลในให้บรรดากุนซือและพ่อค้าแข้งในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเป็นอย่างมาก และจะมีนัดถกปัญหาในเรื่องนี้กันอีกครั้งในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน และต่างเห็นพ้องต้องใจกันว่าทางด้านพรีเมียร์ลีกควรที่จะเปิดไฟเขียวให้ใช้กฎการเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ 5 คนต่อเกมเหมือนกับลีกอื่น ๆ ที่ขานรับกติกามารยาทนี้ที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศออกมาก่อนหน้านี้
ปัจจุบันนั้นในศึกพรีเมียร์ลีกอนุญาตให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นระหว่างเกมการแข่งขันเพียง 3 คนเท่านั้น แต่จะเพิ่มให้อีก1 คนในกรณีที่นักเตะมีปัญหาบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนแข่งขันต่อไม่ได้ แต่ทางทีดีแล้วนั้นมันควรจะให้พรีเมียร์ลีกกระทำการเหมือนลีกดังในยุโรปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลา ลีกาสเปน, กัลโช่ เซเรีย อาอิตาลี, บุนเดสลีกาเยอรมัน และลีกเอิงฝรั่งเศสที่ทำตามกฎที่ฟีฟ่าออกมาอย่างเคร่งครัด โดยสามารถให้เปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คนต่อแต่ละเกมการแข่งขัน
