นับเป็นข่าวดีไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อสำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษอย่าง “เดลี่ เมล์” รายงานว่า โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชุกมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ทรงสนใจหวนกลับมาเทคโอเวอร์แมนฯยูฯอีกครั้ง หลังจากตกเป็นกระแสนข่าวว่าตระกูลเกลเซอร์ทีแผนที่จะขายทีมปีศาจแดง
แมนฯยูฯต้องกลายเป็นจำเลยของสังคมโดยเฉพาะแวดวงลูกหนัง หลังจากทีทีมดังของเมืองผู้ดีดอดไปลงนามร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหม่ในชื่อ “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” ซึ่งจะคัดเอาเฉพาะทีมหัวกะทิและระดับแม่เหล็กของหลากลีกดังมาร่วมฟาดแข้งกันทั้งหมด 12 สโมสร แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดจากกระแสต่อต้านอย่างหนักทั้งจากทางแฟนบอลเองและสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ฟีฟ่า) รวมไปถึงสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้ต้องมีผู้ถูกสังเวยเพื่อเป็นการรับความผิดชอบและหวยก็ไปออกที่เอ็ด วู้ดเวอร์ด โดยซีอีโอคนเก่งของผีแดงตัดสินใจจะก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารหลังสิ้นปีนี้ทันที รวมทั้งยังส่งผลอ้าฟเต้อช้อกไปยังตระกูลเกลเซอร์จนทำให้กลายเป็นที่เกลียดชังจากเหล่าสาวกอสูรแดงมากยิ่งขั้นไปอีก จนทำให้ตระกูลเศรษฐีอเมริกันถึงขั้นอาจยอมขายทีมเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้นมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาราะบียเคยขอเทคโอเวอร์แมนฯยูฯมาแล้วในมูลค่า 3.5 พันล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 133,000 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนสุดท้ายกลายเป็นตระกูลเกลเซอร์ที่ได้ของดีไปในราคาสุดถูกเพียงแค่ 790 ล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 30,020 ล้านบาทเท่านั้นเอง
หลังจากนั้นเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานก็ทรางเปลี่ยนเป้าหมายไปที่การซื้อสโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายก็ทรงต้องผิดหวังไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ดีเป็นที่เชื่อกันว่าหากมกุฏราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียทรงหวนกลับมาสนใจในการเทคโอเวอร์แมนฯยูฯอีกครั้งนั้นมันต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เนื่องจากมีตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเจ้าของใหม่จากตะวันออกกลางนั้นเอาจริงเอาจังกับการทำทีม ซึ่งที่เห็นได้เป็นรูปธรรมนั่นก็คือการกลับคืนสู่ยุคเฟื่องฟูอีกครั้งของทีมคู่กัดร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้นั่นเอง
นอกจากนี้การขายแมนฯยูฯน่าเป็นทางออกที่ดีของทุกฝ่าย โดยทางตระกูลเกลเซอร์ก็จะได้กำไรไปเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้สามารถนำไปใช้หนี้ที่กู้ซื้อมาเทคโอเวอร์ผีแดง รวมทั้งยังเหลือเงินทองอีกมากมายไปลงทุนในธุรกิจด้านที่ตนเองถนัดต่อไป
