เบิร์นลี่ย์ย่ำยีแอนฟิลด์สิ้นมนต์ขลัง

เมื่อค่ำคืนวันที่ 21 มกราคม 2564 คงเป็นวันที่บรรดาแฟนลิเวอร์พูลไม่อยากจดจำและคงต่างพากันช็อกตาตั้งไปทั่วทั้งสามโลก เบิร์นลี่ย์ดับหงส์คาบ้าน หลังจากที่หงส์แดงทำเรื่องงามไส้กล้า ๆ พ่ายให้แก่ทีมคู่แข่งกระดูกเบอร์คนละชั้นอย่างเบิร์นลี่ย์ไปอย่างแสบทรวงด้วยลูกโทษที่จุดโทษในช่วงท้ายเกมไป 0-1
ทำให้แทบจะปิดโอกาสการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ไปได้เลย แม้ว่ายังคงมีความเป็นไปได้ในเชิงทฤษฏีก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นการสิ้นสุดมนต์ขลังเกมในลีกที่แอนฟิลด์ด้วยการปราชัยคารังเป็นนัดแรกในรอบกว่า 3 ปีเลยทีเดียว
สำหรับรางร้ายในเกมนี้ก็เริ่มจากการจัดทัพแบบโรเตชั่นของเจอร์เก้น คล็อปป์เมื่อกล้า ๆ ดร็อปสองมหาประลัยในแดนหน้าอย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซุปตาร์ทีมชาติอียิปต์ และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดาวยิงทีมชาติบราซิล แม้จะได้ปราการหลังจอมเก๋าชาวแคเมอรูนอย่างโฌแอล มาติปสลัดปัญหาบาดเจ็บฟิตกลับมาทันปักหลักในแนวรับร่วมกับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นอย่างฟาบินโญ่ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติบราซิล ก็ตาม
แม้ว่าลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายครองเกมและเปิดเกมรุกเข้าใส่แบบวันเวย์พร้อมทั้งยังมีโอกาสลุ้นประตูหลายต่อหลายครั้งแต่ยังไม่เด็ดขาดในจังหวะปิดสกอร์ จนในที่สุดก็โดนเบิร์นลี่ย์ลงโทษจนได้ในช่วงก่อนหมดเวลาการแข่งขันเพียงแค่ 7 นาทีจากจังหวะที่แอชลี่ย์ บาร์นส์แตะบอลหลบผ่านฟาบินโญ่เข้าไปในกรอบเขตโทษ
และนายทวารมือหนึ่งทีมชาติบราซิลอย่างอลิสซง เบ็คเกอร์กะจังหวะบอลออกมาตัดบอลผิดไปนิดเดียวทำให้ไปเกี่ยวบาร์นส์ล้มในเขตโทษ ก่อนที่บาร์นส์จะสวมบทฮีโร่ลุกขึ้นมาซัลโวลูกที่ 100 ในอาชีพค้าแข้งของตนเองให้เบิร์นลี่ย์ปล้นสามแต้มอันล้ำค่าออกไปจากแอนฟิลด์ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1974 อย่างหล่อด้วยสกอร์ 1-0
หากเหล่าสาวกเดอะค็อปจำกันได้ดีเบิร์นลี่ย์นี่แหละเป็นทีมที่หยุดสถิติกวาดชัยติดต่อกันในแอนฟิลด์ในยุคของคล็อปป์เอาไว้ที่ 24 นัดเท่านั้นเองจากการบุกมาแชร์แต้มกลับออกไปด้วยสกอร์ 1-1 เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว และคราวนี้ก็ยังคงเป็นเบิร์นลี่ย์ที่ทำแสบหยุดสถิติไร้พ่ายในรังของหงส์แดงที่อุตส่าห์ทำเอาไว้อย่างยาวนานที่ 68 นัดจากระยะเวลา 3 ปี 273 วัน ซึ่งนับเป็นสถิติไร้พ่ายเกมลีกในรังมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประวัติศาสตร์ลูกหนังเมืองผู้ดี
จากความพ่ายแพ้พร้อมคราบน้ำตามเหล่าสาวกหงส์แดงในเกมนี้คงจะเรียกได้ว่าหมดโอกาสป้องกันแชมป์ไปเลยก็ไม่ผิดเพี้ยน เนื่องจากตอนนี้ลิเวอร์พูลรูดลงไปอยู่ในอันดับ 4 มี 34 แต้มจาก 19 นัดตามหลังจ่าฝูงคู่กัดตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดห่างถึง 6 คะแนน รวมทั้งยังเป็นการควานหาชัยในลีกไม่เจอติดต่อกันเป็นเกมที่ 5 แถมยังเหลือเชื่อว่าพลพรรคเร้ดแมชชีนจะกระสุนด้านพังประตูคู่แข่งในลีกไม่ได้ติดต่อกัน 4 นัดรวดอีกต่างหาก