โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงจอมเก๋าทีมชาติโปแลนด์ ยังคงเดินหน้าล่าตาข่ายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และล่าสุดจากการทำไปหนึ่งประตูให้บาเยิร์น มิวนิคออกไปเสมอไฟร์บวร์ก 2-2 ในเกมบุนเดสลีกาเยอรมันเมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 ทำให้สามารถก้าวขึ้นมาทาบสถิติดาวซัลโวตลอดกาลของลีกสูงสุดเมืองเบียร์ที่แกร์ด มุลเลอร์ เพชฌฆาตระดับตำนานทีมชาติเยอรมัน เคยทำเอาไว้ 40 ลูกในฤดูกาล 1971 – 1972
แม้ว่าบาเยิร์นจะคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาลนี้ไปอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ภารกิจการทำลายสถิติของมุลเลอร์ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของเลวานดอฟสกี้ และในเกมดังกล่าวดาวยิงวัย 32 ปีก็มีโอกาสที่จะทะลวงตาข่ายได้มากกว่าหนึ่งตุง โดยเฉพาะจังหวะซัดผิดเหลี่ยมจ่อ ๆ ไปในช่วงท้ายเกม
อย่างไรก็ดีเลวานดอฟสกี้ยังมีโอกาสแก้มือในเกมบุนเดสลีกานัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยบาเยิร์นจะเปิดอัลลิอันซ์ อารีน่าต้อนรับการมาเยือนของเอาก์สบวร์กในวันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2564 ซึ่งคาดว่าเพื่อนร่วมทีมเสือใต้ทุกคนคงต่างพากันปั้นสร้างสรรค์โอกาสให้เลวานดอฟสกี้โค่นสถิติอมตะนี้ลงให้จงได้
ขณะที่เลสเตอร์ ซิตี้สามารรถผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพอังกฤษได้เป็นหนแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังจากที่รอคอยมายาวนานกว่า 137 ปี รวมทั้งก่อนหน้านี้ยังมีโอกาสทะลุเข้าชิงในถ้วยเก่าแก่ที่สุดถ้วยหนึ่งของโลกใบนี้มาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องพบกับความผิดหวังไปทั้งหมด
ประตูชัยที่ส่งให้เบรนแดน ร็อดเจอร์สกลายเป็นกุนซือคนแรกที่นำเลสเตอร์ ซิตี้ชูถ้วยเอฟเอ คัพได้สำเร็จนั้นได้มาจากการตะบันระยะไกลสุดสวยของยูริ ตีเลมันส์กว่า 30 หลาบอลพุ่งราวติดจรวดเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสุโค่ยโดยที่นายทวารของเชลซีหมดสิทธิ์ที่จะป้องกันแต่อย่างใดในนาทีที่ 63 ทำให้โธมัส ทูเคิ่ลชวดการสร้างประวัติศาสตร์จากการเป็นกุนซือชาวเยอรมันคนแรกที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพได้สำเร็จ
หลังจบเกมทั้งนักเตะและบรรดากองเชียร์ของเลสเตอร์ ซิตี้ต่างพากันเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ โดยที่ “คุณต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ได้ร่วมลงไปฉลองกับเหล่านักเตะในสนาม และต่างพากันอุทิศความสำเร็จในครั้งนี้ให้แก่อดีตประธานสโมสรผู้ล่วงลับไปแล้วอย่างคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา นอกจากนี้บรรดาสื่อต่าง ๆ ในอังกฤษต่างพร้อมใจกันยกย่องและสดุดีถึงความดีงามของคุณวิชัยรวมไปถึงครอบครัว โดยยกย่องให้เป็นเจ้าของสโมสรต่างชาติที่ได้รับความรักจากแฟนบอลมากที่สุดเลยทีเดียว
