เล่นกันแรงถึงขนาดลอบวางยาเสี่ยหมี

นับได้ว่าเป็นข่าวสะเทือนขวัญกันไปทั่วโลกไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากสื่อระดับแถวหน้าในสหรัฐอเมริกาอย่าง “เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล” ออกมารายงานว่าโรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียและเจ้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดังในพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างเชลซี โดนลอบวางยาพิษในขณะที่เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่ยูเครน ซึ่งตอนนี้ได้มีการสู้รบกันไปจนกลายเป็นไฟลามทุ่มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อบราโมวิชพร้อมด้วยตัวแทนจากยูเครนหลายคน ได้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมสันติภาพเพื่อเจรจาเกี่ยวกับการหาข้อยุติที่ทำให้เกิดการสู้รบกันระหว่างรัสเซียและยูเครนอยู่ในตอนนี้ที่กรุงเคียฟ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2022 แต่ก็ดันมาเกิดเหตุการณ์ลักลอบวางยาพิษดังกล่าว
สื่อยี่ห้อดังกล่าวได้รายงานว่า หลังจากที่เสร็สสิ้นการประชุมกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น อบราโมวิชพร้อมด้วยตัวแทนระดับสูงชาวยูเครนอย่างน้อย 2 รายมีการแสดงอาการออกมาในรูปแบบของตาแดง, มีบาดแผลฉีกขาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีอาการลอกของผิวหนังตรงบริเวณใบหน้าและตรงที่มืออีกด้วย ซึ่งเชื่อกันเหลือเกินว่าน่าจะมาจากการถูกลักลอบวางยาพิษ
นอกจากนั้นสื่อชั้นนำสัญชาติอเมริกันยังได้รายงานต่อไปอีกด้วยว่า อาการที่แสดงออกมาของอบราโมวิชและตัวแทนระดับสูงชาวยูเครนนั้นมันน่าจะมาจากการที่โดนอาวุธทางชีวภาพ หรือไม่ก็เป็นการโดนโจมตีจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
อย่างไรก็ดีตอนนี้อบราโมวิชและแกนนำที่เข้าร่วมประชุมสันติภาพดังกล่าวชาวยูเครน ต่างก็ไม่อาการที่ดีขึ้นอย่างมากแล้ว และไม่ได้มีอันตรายถึงขั้นที่ต้องเสียชีวิตแต่อย่างใด ขณะเดียวกันนั้นก็ต่างเชื่อกันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงแค่การส่งสัญญาเตือนเท่านั้น และไม่ได้มุ่งหมายที่จะเอาชีวิตกันแต่อย่างใดเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้นตอนนี้เสี่ยหมีก็ยังคงโดนกดดันอย่างหนักทั้งจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหราชอาณาจักร รวมไปถึงสหภาพยุโรป (อียู) ที่เป็นการแสดงการตอบโต้ความสนิทชิดเชื้อมากเกินเหตุที่มีต่อวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งออกคำสั่งให้กองทัพหมีขาวเข้ารุกรานยูเครนอยู่อย่างยื่ดเยื้อในตอนนี้
ขณะเดียวกันนั้นก็ยังมีบางประเทศที่พอให้เสี่ยหมีได้พักหายใจหายคอกันบ้างไม่มากก็น้อย โดยบรรดาประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ไม่เชื่อว่าการคว่ำบาตรเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่กลับเชื่อว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเสียมากกว่า รวมทั้งยังส่งผลกระทบบานปลายเข้าไปในภาคส่วนของด้านธุรกิจที่ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพของเหล่าเจ้าสัวชาวรัสเซีย ส่วนในเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้นมันก็ต้องคอยดูกันต่อไปหลังเริ่มชักบานปลายไปกันใหญ่แล้ว