คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัยชาวโปรตุกีส สมเป็นเครื่องจักรสังหารตัวจริงเสียงจริง หลังจากกดแฮตทริกช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ดเบียดชนะทีมบ๊วยอย่างนอริช ซิตี้ไปแบบหืดจับ 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2022 ทำให้กัปตันทีมชาติโปรตุเกส สร้างเกียรติประวัติในอาชีพค้าแข้งได้อย่างสุโค่ยด้วยการกระทุ้งแต่ละซีซั่นไม่ต่ำกว่า 20 ตุงติดต่อกันเป็นปีที่ 16 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการระเบิดแฮตทริกได้ในโรงละครแห่งความฝันนั้นมันส่งให้โรนัลโด้ซัลโวในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 15 เม็ดในซีซั่นนี้ โดยเป็นรองเพียงแค่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซุปตาร์ทีมชาติอียิปต์ของลิเวอร์พูล และซน ฮึง มิน โอปาสุดหล่อทีมชาติเกาหลีใต้ รวมทั้งยังเป็นลูกที่ 21 ในทุกรายการที่ตะบันให้ปีศาจแดงในฤดูกาลนี้ นอกจากนี้ยังเป็นลูกที่ 99 ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีของแข้งทองคำวัย 37 ปีอีกด้วย
การซัลโวแฮตทริกใส่นอริช ซิตี้ยังนับเป็นการกดแฮตทริกที่ 60 ในอาชีพค้าแข้งของโรนัลโด้อีกด้วย ซึ่งประกอบไปด้วยการทำในระดับสโมสร 50 ครั้ง และในนามทีมชาติ 10 ครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นการกดอย่างต่ำ 20 เม็ดต่อซีซั่นติดต่อกันเป็นปีที่ 16 นับตั้งแต่ฤดูกาล 2006 – 2007 ซึ่งลงเล่นให้แมนฯยูฯเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ลูกฟรีคิกที่เป็นประตูชัยให้แมนฯยูฯในเกมดังกล่าวนั้นมันยังนับเป็นการยิงลูกฟรีคิกแบบไดเร็คเม็ดที่ 58 ของโรนัลโด้อีกด้วย
สามแต้มสำคัญจากแมตช์ดังกล่าว นับเป็นการต่อลมหายใจในการจบซีซั่นนี้ด้วยการติดท็อปโฟร์ เพื่อคว้าตั๋วใบสุดท้ายไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติในฤดูกาลหน้า หลังจากทำให้ตอนนี้แมนฯยูฯอยู่ในอันดับ 5 มีเพิ่มเป็น 54 คะแนนจาก 32 นัด และตามหลังที่ 4 อย่างสเปอร์สห่าง 3 แต้ม
สำหรับผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2022 นับว่าเข้าทางปีศาจแดงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เนื่องจากทีมฟอร์มแรงอย่างสเปอร์สพลาดพังคารังให้ไบรท์ตันไปแบบพลิกล็อก 0-1 หยุดสถิติกวาดชัยในลีกติดต่อกัน 4 นัดรวดก่อนหน้านี้ รวมทั้งทางฝั่งของอาร์เซน่อลยังคงสะดุดจนหัวทิ่มหัวต่ำจากการพ่ายในลีกติดต่อกันเป็นนัดที่ 3 จากการออกไปพ่ายเซาแธมป์ตันสุดเซอร์ไพรส์ 0-1
ขณะที่ทางด้านจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้คงหนาว ๆ ร้อน ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อมีคิวต้องเปิดเอติฮัด สเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของทีมแจ็คผู้ฆ่ายักษ์อย่างไบรท์ตัน ในวันที่ 20 เมษายน 2022 หลังจากเจ้านกนางนวลแห่งเมืองผู้ดีฟอร์มกำลังหุงขึ้นหม้อจากการไล่ตบทีมคั๋วตัวยูซีแอลทั้งอาร์เซน่อล และสเปอร์ส ส่วนลิเวอร์พูลมีคิวทำศึกแดงเดือดด้วยการเปิดแอนฟิลด์รับมือแมนฯยูฯ ในวันที่ 19 เมษายน 2022
