หงส์เซ็งอดดวลราชันชุดขาวในเบร์นาบิว

ลิเวอร์พูลคงผิดหวังไม่น้อยเลยทีเดียวที่จะได้สัมผัสบรรยากาศการฟาดแข้งในหนึ่งสนามยักษ์ใหญ่อย่างซานติเอโก้ เบร์นาบิว เนื่องจากโคตรทีมแห่งลา ลีกาสเปนอย่างเรอัลมาดริดกำลังทำการ ปรับปรุงสนามซานติเอโก้ เบร์นาบิว อยู่ในตอนนี้ และมีกำหนดการแล้วเสร็จในช่วงซัมเมอร์นี้
เดิมทีลิเวอร์พูลมีคิวดวลแข้งกับเรอัล มาดริดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกนัดแรกในวันที่ 6 เมษายนนี้ แต่น่าเสียดายที่หงส์แดงอดสัมผัสสังเวียนแข้งอย่างซานติอาโก้ เบร์นาบิวที่มีความจุมหาศาลกว่า 81,044 ที่นั่ง เนื่องจากราชันชุดขาวพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสจากการระบาดของไวรัสมรณะโควิดด้วยการเอาช่วงเวลาดังกล่าวมาปรับปรุงสนามแทน ทำให้หงส์แดงจำเป็นต้องย้ายไปเล่นกับราชันชุดขาวในสนามอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมสำรองที่มีความจุเพียงแค่ 6,000 ที่นั่งเท่านั้นเอง
แต่งานนี้แฟนหงส์แดงอย่าเพิ่งน้อยใจไปเพราะว่าซีซั่นนี้ราชันชุดขาวล้วนแล้วแต่ใช้สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าในการปะทะกับคู่แข่งในทุกรายการของฤดูกาล 2020 – 2021 ไปจนกว่าซานติอาโก้ เบร์นาบิวจะซ่อมเสร็จและพร้อมเปิดใช้ในเดือนมิถุนายน 2564
อย่างไรก็ดีการที่ลิเวอร์พูลได้จับสลากมาเผชิญหน้ากับเรอัล มาดริดในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนี้ ทำให้เหล่าสาวกเดอะค็อปพากันอินฟินตามไปกับจินตนาการที่จะเกิดเหตุการณ์ “เดจาวู” เหมือนที่หงส์แดงเคยสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการฟันแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อฤดูกาล 2004 – 2005 จากการฟื้นคืนชีพที่ตามโคตรทีมแห่งกัลโช่ เซเรีย อาอย่างเอซี มิลานในครึ่งแรก 0-3 แต่โกงความตายมาไล่ตีเสมอได้ 3-3 อย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่จะลากยาวไปเอาชนะได้ในการดวลลูกโทษที่จุดโทษ
สำหรับนัดชิงในความฝังใจของแฟนลิเวอร์พูลนั้นเกิดขึ้นในปี 2005 ที่อีสตันบูลในตุรกี และรอบชิงชนะเลิศในซีซั่นนี้ก็จะไปจัดกันที่นั่นอีกครั้ง ทำให้กระแส “เดจาวู” แพระสะพัดในหมู่สาวกเดอะค็อปไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากเส้นทางไปสู้แชมป์ปีนั้นมันดูเหมือนจะย้อนรอยในปีนี้ ซึ่งเริ่มต้นจากการดวลกับทีมจากสเปนในรอบ 8 ทีม แล้วไปคว่ำทีมจากพรีเมียร์ลีกด้วยกันในรอบตัดเชือก ก่อนที่จะก้าวไปถึงดวงดาวราวปาฏิหาริย์
แม้ว่าทฤษดีต่าง ๆ ที่แฟนบอลลิเวอร์พูลพากันฟินไปตามกันตอนนี้นั้นมันดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากราวงมเข็มในมหาสมุทร แต่ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ก็จำเป็นต้องทุ่มสุดตัวเพื่อคว้า “ถ้วยบิ๊กเอียร์” ใบนี้ไปครองให้ได้เป็นสมัยที่ 7 พร้อมความสิทธิ์ไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าฐานะแชมป์เก่าเพราะว่าสถานการณ์การลุ้นที่ 4 ในพรีเมียร์ลีกมันยากออกไปทุกทีจนดูเหมือนจะเกินความสามารถไปแล้ว