“ช้างศึก” ยังต้องลุ้นเตะในบ้าน ไทย หวั่น เอเอฟซี เปลี่ยนแผนคัดบอลโลกใช้สนามกลาง

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2020 โซนเอเชีย รอบ 2 ไทยมีโปรแกรมเตะเดือน มี.ค. เปิดบ้านรับมือกับ “อิเหนา” แต่หวั่นเสียโอกาสความได้เปรียบหากต้องเตะสนามกลาง เนื่องจาก สถานการณ์ โควิด-19 สมาคมฯลูกหนังไทย เผยยังต้องลุ้นว่า “ช้างศึก” จะได้เตะในบ้านหรือไม่
ทีมชาติไทยมีคิวแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2020 โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มใน G อีก 3 นัด ตามโปรแกรมคือ ต้องเตะวันที่ 25 มี.ค. เล่นในบ้านพบกับ อินโดนีเซีย, วันที่ 7 มิ.ย. ออกไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และส่งท้าย วันที่ 15 มิ.ย. เตะในบ้านพบกับ มาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ทำให้เกิดควมกังวลกับโปรแกรมการแข่งขันในบ้าน
ด้าน นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาเปิดเผยว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้กำหนดแล้วว่า ให้ใช้ช่วงฟีฟ่าเดย์ ภายในเดือน มี.ค. และ มิ.ย. ให้แข่งขันให้จบในรอบที่ 2 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับประเทศต่างๆ ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง ในการจัดแข่งขัน ในส่วนของประเทศไทย ตอนนี้ ยังคงปิดสนามกีฬาอยู่ ก็คงต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง ว่าจะสามารถดำเนินการ จัดการแข่งขันได้หรือไม
“ฟีฟ่าแจ้งให้สื่อสารกันเองระหว่าง ทีมที่จะทำการแข่งขัน อย่างเช่น ไทย พบ อินโดนีเซีย ในเดือน มี.ค. ก็คงต้องถามก่อนว่าไทยสามารถที่จะดำเนินการ จัดการแข่งขันได้หรือไม่ ตอนนี้ในกรุงเทพฯ ยังคงมีคำสั่งปิดสนามกีฬา แต่เป็นคำสั่งชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นไทยต้องแจ้งเรื่องไปทางอินโดนีเซียว่าสนามกีฬายังไม่เปิดให้จัดการแข่งขัน
และ การเดินทางเข้าประเทศไทยในตอนนี้ ก็มีมาตรการกักตัว 14 วัน เมื่อใกล้ถึงช่วงวันแข่งขัน ก็จะต้องแจ้งทางอินโดนีเซียอีกรอบหนึ่ง ว่าประเทศไทยมีความพร้อม หรือมีข้อจำกัดใดบ้าง ต้องติดตามสถานการณ์ และระเบียบในช่วงเวลานั้น เป็นระยะๆ ถ้าหากว่าไทยสามารถทำการจัดแข่งขันได้ อินโดนีเซีย ก็ควรต้องเดินทางมาเตะที่ประเทศไทย แต่ถ้าหากมีปัญหาเรื่องการกักตัว 14 วัน ก็ต้องดูว่าอินโดนนีเซียรับได้หรือไม่”
เลขาฯลูกหนังไทยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนตัวคิดว่า ทั้ง อินโดนีเซีย และ ประเทศไทย เหลือโปรแกรม 3 นัด คงไม่ต้องการให้โปรแกรมการแข่งขัน ไปอัดอยู่ในเดือนมิ.ย.ทั้งหมด และสำหรับทีมชาติไทย ถือเป็นช่วงสำคัญที่จะต้องเก็บคะแนน ดังนั้นถ้าหากไปเล่นสนามกลางทั้ง 3 นัด อาจจะเป็นเรื่องที่เสียเปรียบ แต่ถ้ามีความเป็นไปได้ที่จะเล่นในบ้านก่อนสัก 1 เกม ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
นายพาทิศ กล่าวอีกด้วยว่า สมาคมลูกหนังไทย ติดตามสถานการณ์นี้ เพื่อจะแจ้งกับทาง อินโดนีเซียและ ฟีฟ่า ว่าสามารถจะดำเนินการจัดการแข่งขันได้หรือไม่ ถ้าหากว่าอินโดนีเซีย ไม่ติดอะไร พร้อมเดินทางมากักตัว 14 วัน แล้วแข่งขัน ก็สามารถทำได้ ส่วนชาติอื่นๆ ก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ที่ต้องเช็กสถานการณ์ตลอดเวลา ตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกฟีฟ่าเดย์เดือน มี.ค. ใครเตะได้ก็เตะ ฉะนั้นชาติ ตะวันออกกลาง ที่ไม่ค่อย มีปัญหา อาจจะเตะก่อน ก็ทำได้เช่นกัน
“เลขาโจ” ยังทิ้งท้ายว่า เดดไลน์ วางไว้ว่า รอบคัดเลือก รอบ 2 ต้องจบเดือน มิ.ย. ดังนั้น เชื่อว่าถ้าเดือน มี.ค. ยังแข่งขันไม่ได้ ทาง เอเอฟซี อาจต้องเปลี่ยนแผนไปจัดให้มีการเตะสนามกลาง เพื่อทำให้การแข่งขันทั้งหมด จบลงตามกำหนดของฟีฟ่า