ชำแหละฟอร์มหงส์แดงแรงตกฮวบฮาบ

ชั่วโมงนี้แฟนบอลลิเวอร์พูลคงต่างพากันอกสั่นขวัญแขวนกันไม่หายกับผลงานของทีมรักที่ร่วงกราวรูด โดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่ดูเหมือน เส้นทางการป้องกันแชมป์ฤดูกาล 2020 – 2021 ปิดประตูลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากเกมล่าสุดที่โดนจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้บุกมาขยี้คาแอนฟิลด์ 1-4 ทำให้ตอนนี้หงส์แดงตามหลังเรือใบสีฟ้าสูดกู่ 10 แต้มแถมเล่นไปมากกว่าหนึ่งนัด ดังนั้นวันนี้เราลองไปดูกันซิว่าเหตุผลกลใดทำไมลิเวอร์พูลถึงได้มีชะตากรรมเยี่ยงนี้
ปัจจัยที่สำคัญที่อดพูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือการหายหน้าหายตาไปของสองแนวรับหัวใจของทีมอย่างเฟอร์กิล ฟาน ไดค์และโจ โกเมซ รวมไปถึงแผงหลังรายอื่นก็เวียนหน้าสลับกันเดี้ยงราวเก้าอี้ดนตรี โดยการขาดฟาน ไดค์ไปยาว ๆ จนคาดว่าน่าจะกลับมาไม่ทันในซีซั่นนี้ส่งผลใหญ่หลวงต่อลิเวอร์พูลอย่างยิ่งยวด ซึ่งการปราศจากปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์วัย 29 ปีไปนั้นมันตรงกับอาถรรพ์ของพรีเมียร์ลีกที่มีอยู่ว่า หากแชมป์เก่าไม่ว่าทีมใดไร้เงาหัวใจของทีมยาว ๆ ยังไม่เคยมีทีมใดป้องกันแชมป์ได้สำเร็จไม่เว้นแม้แต่ยุคเรื่องรองของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ขณะเดียวกันนั้นการขาดหายไปของสองกองกลางห้องเครื่องอย่างฟาบินโญ่และเฮนเดอร์สัน โดยเจอร์เก้น คล็อปป์จำเป็นต้องถอยเอาดาวเตะสารพัดประโยชน์ไปยืนเซ็สเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นคู่กัปตันทีมหงส์แดง ทำให้แผงมิดฟิลด์ยวบลงไปทันตาจนไม่สามารถต้านทานแผงกลางของแมนฯซิตี้อย่างเห็นได้ชัดในเกมล่าสุด บวกเข้ากับปัจจัยการเล่นสไตล์คล็อปป์ที่เน้นเพรสซิ่งทำให้ต้องเสียพลังงานไปอย่างมาก และกำลังสำรองของหงส์แดงก็ยังไม่ดีเท่ากับบรรดาท็อปซิกซ์จึงแทบไม่ได้ประโยชน์จากการโรเตชั่นแต่อย่างใด
สุดท้ายที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนั่นก็คือผลงานอลังการดาวล้านดวงในถิ่นแอนฟิลด์สิ้นมนต์ขลังลงไปดื้อ ๆ ทำให้เมื่อเปรียบเทียบช่วงนี้ของซีซั่นที่แล้วนั้นมันชี้ชัดเลยว่าเครื่องจักรสีแดงโกยคะแนนได้น้อยกว่าฤดูกาลที่ผ่านมามากถึง 16 แต้มเลยทีเดียว รวมทั้งยังมีอีกปัจจัยจากพิษโควิดที่ห้ามแฟนบอลเข้าชมในสนาม ทำให้บรรยากาศภายใจแอนฟิลด์ลดความน่ากลัวให้คู่แข่งไปเยอะเลย
ณ บัดนี้ลิเวอร์พูลยังสะกดคำว่า “ชัยชนะ” ไม่เป็นในแอนฟิลด์ติดต่อกันในทุกรายการปาเข้าไปเป็นเกมที่ 5 ซึ่งแบ่งออกเป็นเสมอ 2 แพ้ 3 โดยที่สำคัญและไม่อยากจดจำของเหล่าสาวกเดอะค็อปนั่นก็คือการพังคารังในเกมลีกติดต่อกัน 3 เกมซ้อนนั่นเอง