ข่าวฟุตบอล

ตำนานยอดสามประสานโลกลูกหนัง

                หากเราลองสังเกตกันให้ดีทีมที่ประสบความสำเร็จในแต่ละยุคสมัยไม่ว่าจะเป็นระดับสโมสรหรือระดับชาตินั้นจำเป็นต้องมี 3 ประสานมหากาฬเสียเป็นส่วนใหญ่  และวันนี้เราจะไปดูตำนานสามประสานที่ดีที่สุดของโลกลูกหนังกัน

                อันดับหนึ่งตลอดการคงต้องยกให้สามประสานจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างบ็อบบี้ ชาร์ลตัน,  จอร์จ เบสต์  และเดนิส ลอว์ในชุดภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือขั้นเทพอย่างเซอร์แมตต์ บัสบี้  โดยผลงานระดับมาสเตอร์พีคคงหนีไม่พ้นการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพเมื่อปี 1968 ก่อนที่จะมาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก  ทำให้ปีศาจแดงถึงขนาดต้องสร้างรูปปั้นสามทหารเสือชุดนี้เอาไว้ที่หน้าสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเลยทีเดียว

                ลำดับสองรองลงมาก็เป็นสามประสานอย่างแฟร้งค์ ไรจ์การ์ด,  รุด กุลลิต  และมาร์โก แวน บาสเท่นที่นำฮอลแลนด์คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป  รวมไปถึงนำเอซี มิลานประกาศความยิ่งใหญ่ทั้งในกัลโช่ เซเรีย อาอิตาลีและเวทีบอลถ้วยสโมสรยุโรปด้วยการฟาดแชมป์กันไปแบบจุก ๆ

                แฟนบอลของอาร์เซน่อลอย่าเพิ่งน้อยในไป  เนื่องจากที่เราจะกล่าวถึงในลำดับต่อไปนั่นก็คือหนึ่งในตำนานสุดยอดสามประสานของเดอะกันเนอร์สอย่างเดนิส เบิร์กแค้มป์,  โรแบร์ ปิแรส  และเธียร์รี่ อองรีในยุคการกุมบังเหียนของบรมกุนซืออย่างอาร์แซน เวนเกอร์  โดยสามแข้งมหากาฬนี้มีส่วนสำคัญช่วยให้ปืนใหญ่สร้างสถิติสุดยอดจากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแบบไร้พ่ายในฤดูกาล 2003 – 2004

                ส่วนที่หากไม่กล่าวถึงนั้นจัดได้ว่าเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง  โดยนั่นก็คือสามประสานในยุคทองของบาร์เซโลน่าอย่างชาบี เอร์นันเดส,  อันเดรียส อิเนียสต้า  และลีโอเนล เมสซี่ที่เป็นหัวใจในความสำเร็จของบาร์ซ่าชนิดแทบผูกขาดมายาวนานร่วม 10 ปีเลยทีเดียว

                อีกหนึ่งสามประสานที่แฟนบอลทั่วโลกพากันกระทืบไลค์ให้สุดใจนั่นก็คืออลัน แฮนเซน,  เคนนี่ ดัลกลิช  และแกรม ซูเนสส์ที่นำลิเวอร์พูลก้าวเข้าสู่ยุคทองเรืองรองอำนาจในเชิงลูกหนังช่วงทศวรรษที่ 1970 – 1980 ก่อนที่จะโชคร้ายมีดดีติดตัวจากเหตุสุดสลดที่แฟนบอลเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากจนทำให้หงส์แดงและตัวแทนสโมสรจากอังกฤษโดนแบนออกจากการแข่งขันในถ้วยสโมสรยุโรปอย่างยาวนานร่วม 10 ปีเลยทีเดียว

                สำหรับยุคทองของบาเยิร์น มิวนิคเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970 จากการร่วมแรงร่วมใจของสามประสานตีนระเบิดอย่างอูลี่ เฮอร์เนส,  แกร์ด มุลเลอร์  และคาร์ล-ไฮนซ์ รุมมินิเก้ ที่ประกาศศักดาตัวแทนสโมสรจากเยอรมันจากการฟันแชมป์ยูโรเปี้ยน 3 ฤดูกาลซ้อน

                ทางด้านเรอัล มาดริดก็มียุคทองกับเขาเหมือนกัน  แต่ต้องย้อนกลับไปในยุค 1960 จากสามพลังมหาเทพอย่างอัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่,  เฟเรนซ์ ปุสกัส  และฟรานซิสโก้ เจนโต้ ที่ทำสถิติครองแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพติดต่อกันได้มากที่สุดตลอดกาลจวบจนปัจจุบันยังไม่มีสโมสรได้ทุบสถิตินี้ลงได้ที่ 6 ฤดูกาลติดต่อกัน

                หากกล่าวถึงยุคทองของ “ทริปเปิ้ลอาร์” ที่ประกอบไปด้วยโรนัล ดินโญ่,  ริวัลโด้  และโล้นทองคำอย่างโรนัลโด้  คงเป็นอีกหนึ่งตำนานที่จดจำกันได้ไม่ลืมเลือน  โดยดิแอดเวนเจอร์ชุดนี้สามารถพาบราซิลกวาดแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นสมัยที่ 5 เมื่อปี 2002 ที่มีเจ้าภาพร่วมเป็นครั้งแรกนั่นก็คือญี่ปุ่นจับมือกับเกาหลีใต้นั่นเอง

                นอกจากนี้โล้นทองคำอย่างโรนัลโด้ยังมีส่วนในความสำเร็จของเรอัล มาดริดหลังหมดยุคทองของปุสกัสไปนานนม  โดยสามประสานที่ถือกำเนิดใหม่ในซานติอาโก้ เบร์นาบิวนั่นก็คือหลุยส์ ฟิโก้,  ซีเนอดีน ซีดาน  และโรนัลโด้ ที่ต่างผนึกกำลังกันช่วยทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับมาสู่ราชันชุดขาว

แสดงเพิ่มเติม

Related Articles

takin slot nemo slot khotsian kaujing joker123 game epicwin slot pgslot game kingkong slotxo
Back to top button
P