วารานฟันค่าเหนื่อยปีศาจแดงเป็นอันดับสาม

                ราฟาเอล วาราน ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสที่ย้ายมาจากมหาอำนาจลูกหนังในลา ลีกาสเปนอย่างเรอัล มาดริด ได้รับค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์จากทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นอันดับที่ 3 รองจากดาบิด เด เคอา นายทวารจอมเก๋าทีมชาติสเปน ที่กลับมาเป็นมือหนึ่งอีกครั้งในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้  และเจดอน ซานโช่ จรวดทางเรียบทีมชาติอังกฤษ ที่ค่าตัวแพงระยับเมื่อย้ายมาจากทีมแกร่งแห่งบุนเดสลีกาอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในช่วงซัมเมอร์นี้

                วารานย้ายจากเรอัล มาดริดมาร่วมทัพแมนฯยูฯด้วยค่าตัว ราว 43 ล้านปอนด์ ซึ่งตีเป็นเงินไทยตกที่ราว 1,978 ล้านบาท พร้อมสัญญาค้าแข้งในโอลด์ แทรฟฟอร์ดเป็นเวลา 4 ปี  และได้ค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 340,000 ปอนด์ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 15.64 ล้านบาท

สรุป 10 อันดับแรกแข้งแมนฯยูฯที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในฤดูกาล 2021 – 2022:

• 1.ดาบิด เด เคอา  375,000  ปอนด์
• 2.เจดอน ซานโช๋  350,000  ปอนด์
• 3.ราฟาเอล วาราน  340,000  ปอนด์
• 4.ปอล ป๊อกบา  290,000  ปอนด์
• 5.อองโตนี่ มาร์กซิยาล  250,000  ปอนด์
• 5.เอดีสัน คาวานี่  250,000  ปอนด์
• 7.มาร์คัส แรชฟอร์ด  200,000 ปอนด์
• 8.แฮร์รี่ แม็กไกวร์  189,904  ปอนด์
• 9.บรูโน่ แฟร์นันด์ส  180,000  ปอนด์
• 10.ลุค ชอว์  150,000  ปอนด์

                ขณะเดียวกันนั้นสาเหตุหลักที่วารานไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 4 นั้นมาจากเจ้าของเดิมอย่างฟิล โจนส์ไม่ยอมเปิดทางให้นั่นเอง  ทำให้วารานจำเป็นต้องไปเลือกใส่หมายเลข 19 ซึ่งเป็นของอาหมัด ดิยัลโล่แทน  แล้วปล่อยให้ดิยัลโล่โยกไปใส่เบอร์ 16 จากการเปิดเผยของสื่อท้องถิ่นของเมืองแมนเชสเตอร์อย่าง “แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์”

                แม้ว่าโจนส์ยังเหลือสัญญาค้าแข้งกับทางแมนฯยูฯอยู่ไปจนถึงปี 2023 และยึดเสื้อเบอร์ 4 เอาไว้อย่างเหนียวแน่น  แต่ปราการหลังส่วนเกินผีแดงไม่ได้ลงเล่นมานานกว่า 18 เดือนเข้าไปแล้ว  และตอนนี้ต้องกลายเป็นตัวเลือกในแนวรับลำดับที่ 5 หลังจากอั๊กเซล ตวนเซเบ้ย้ายออกไปเล่นให้ทีมร่วมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอย่างแอสตัน วิลล่าแบบยืมตัว

                อย่างไรก็ดีซีซั่นนี้แมนฯยูฯออกตัวได้แรงสุด ๆ ไปเลย  หลังจากเปิดโรงละครแห่งความฝันไล่ต้อนลีดส์ ยูไนเต็ดไปด้วยสกอร์มโหฬาร 5–1 พร้อมผงาดขึ้นรั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกตั้งแต่นัดเปิดสนามเมื่อวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 นับเป็สนิมิตหมายอันดีอย่างยิ่งของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาที่มีลุ้นกุมบังเหียนพาพลพรรคเร้ดอาร์มี่กลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีไปอย่างยาวนาน  หลังจากหมดยุคทองของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันไปแล้ว